รู้หรือไม่ หากอยากหุ่นดี "ลดน้ำหนัก" ให้ผอมได้ภายใน 1 เดือน หัวใจสำคัญอยู่ที่อาหารมากกว่าการออกกำลังกาย โดยต้องให้ความสำคัญกับอาหารที่รับประทาน 70% ส่วนอีก 30% ทุ่มเทให้กับการออกกำลังกาย
ส้มตำปูไทย ไม่ใส่ถั่ว 1 จาน ให้พลังงานทั้งสิ้น เท่ากับ 118 แคลอรี่อาหาร (Cal) [ 118 กิโลแคลอรี่(kcal)]
BMR (Basal Metabolic Rate – อัตราการเผาผลาญพลังงาน) คือ จำนวนแคลอรี่ขั้นต่ำที่ต้องการใช้ในชีวิตแต่ละวันตามกิจกรรมที่คุณได้ทำทั้งหมดในวันนั้นๆ ซึ่งนั่นหมายความว่าแม้แต่คุณจะนอนเล่นทั้งวัน คุณก็จำเป็นต้องเติมพลังงานให้กับร่างกายของคุณ ไม่เช่นนั้นร่างกายของคุณจะเข้าสู่ช่วงของการจำศีล ซึ่งหมายความว่าระบบเผาผลาญพลังงานในร่างกายของคุณจะถูกปรับให้ทำงานน้อยลง เพื่อประหยัดพลังงานให้คุณได้มีชีวิตอยู่นานๆ
คำนวณจำนวนแคลลอรี่ที่คุณจำเป็นต้องใช้ในแต่ละวันได้ที่นี่
คำนวณจำนวนแคลลอรี่ที่คุณจำเป็นต้องใช้ในแต่ละวันได้ที่นี่
แคลอรี่ (Calorie) คือ หน่วยที่ใช้ในการวัดค่าพลังงานที่เราสามารถพบเห็นได้ตามฉลาก หรือตามข้างบรรจุภัณฑ์อาหารประเภทต่างๆ มีประโยชน์เพื่อใช้บอกค่าพลังงานที่เรารับเข้าไปจากการรับประทานอาหารชนิดนั้นๆ
โดยใน 1 แคลอรี่ก็คือปริมาณที่ทำให้น้ำ 1 กรัม มีอุณหภูมิเพิ่มขึ้น 1 องศาเซลเซียส ส่วนพลังงานที่ใช้ในร่างกาย หรือพลังงานที่เราได้รับจากอาหารจะเรียกแทนหน่วยเป็น กิโลแคลรี่ (kcal) เพื่อบอกว่า อาหารที่เรานำเข้าสู่ร่างกายนั้นมีจำนวนพลังงานเท่าไหร่ และเราควรจะเลือกบริโภคอาหารชนิดใดเพื่อให้มีพลังงานที่เพียงพอต่อการใช้งานใน 1 วัน
สารอาหารที่ให้พลังงานส่วนใหญ่จะเป็นอาหารจำพวกโปรตีน, คาร์โบไฮเดรต, และไขมัน โดยสามารถจำแนกออกเป็นปริมาณต่างๆ ได้ดังนี้
- โปรตีน ให้พลังงาน 4 แคลอรี่ต่อกรัม
- คาร์โบไฮเดรต ให้พลังงาน 4 แคลอรี่ต่อกรัม
- ไขมัน จะให้พลังงานสูงมากที่สุดถึง 9 แคลอรี่ต่อกรัม
โดยปกติแล้ว ปริมาณแคลอรี่ที่ควรบริโภคต่อวันสำหรับคนทั่วไปที่ทำงานหนักปานกลาง ค่อนไปจนถึงมาก คือ ประมาณ 2,000 กิโลแคลอรี่
แต่สำหรับผู้ที่ทำงานหนักมากๆ หรือผู้ที่ต้องใช้พลังงานมากๆ อาทิ นักกีฬา หรือกรรมกร ก็ต้องบริโภคอาหารที่ให้พลังงานในจำนวนที่มากกว่านี้ แคลอรี่คืออะไร
แคลอรี่เป็นหน่วยวัดพลังงาน หนึ่งแคลอรี่คือปริมาณความร้อนที่ทำให้น้ำ 1 กรัมมีอุณหภูมิสูงขึ้น 1 องศาเซลเซียส ส่วนพลังงานที่ใช้ในร่างกายและพลังงานที่ได้รับจากอาหารเรียกเป็น กิโลแคลอรี่ นั่นหมายถึงปริมาณความร้อนที่ทำให้น้ำ 1 กิโลกรัมมีอุณหภูมิสูงขึ้น 1 องศาเซลเซียส ร่างกายของเราต้องการพลังงานวันละ 25 กิโลแคลอรี่ ต่อน้ำหนักตัวหนึ่งกิโลกรัม โดยทั่วไปจะมีน้ำหนักเฉลี่ยที่ 50 กิโลกรัม นั่นหมายถึงจะต้องการพลังงานขั้นต่ำสุดประมาณวันละ 1,250 กิโลแคลอรี่ แต่เนื่องจากในชีวิตประจำวันนั้นเราต้องมีกิจกรรมอื่นๆ ทำอีกมากมาย เช่นเดินขึ้นบันได วิ่งออกกำลังกาย นั่งทำงาน ฯลฯ จึงต้องการพลังงานโดยเฉลี่ยแล้ววันละประมาณ 2,000 กิโลแคลอรี่นั่นเองค่ะ
โดยใน 1 แคลอรี่ก็คือปริมาณที่ทำให้น้ำ 1 กรัม มีอุณหภูมิเพิ่มขึ้น 1 องศาเซลเซียส ส่วนพลังงานที่ใช้ในร่างกาย หรือพลังงานที่เราได้รับจากอาหารจะเรียกแทนหน่วยเป็น กิโลแคลรี่ (kcal) เพื่อบอกว่า อาหารที่เรานำเข้าสู่ร่างกายนั้นมีจำนวนพลังงานเท่าไหร่ และเราควรจะเลือกบริโภคอาหารชนิดใดเพื่อให้มีพลังงานที่เพียงพอต่อการใช้งานใน 1 วัน
สารอาหารที่ให้พลังงานส่วนใหญ่จะเป็นอาหารจำพวกโปรตีน, คาร์โบไฮเดรต, และไขมัน โดยสามารถจำแนกออกเป็นปริมาณต่างๆ ได้ดังนี้
- โปรตีน ให้พลังงาน 4 แคลอรี่ต่อกรัม
- คาร์โบไฮเดรต ให้พลังงาน 4 แคลอรี่ต่อกรัม
- ไขมัน จะให้พลังงานสูงมากที่สุดถึง 9 แคลอรี่ต่อกรัม
โดยปกติแล้ว ปริมาณแคลอรี่ที่ควรบริโภคต่อวันสำหรับคนทั่วไปที่ทำงานหนักปานกลาง ค่อนไปจนถึงมาก คือ ประมาณ 2,000 กิโลแคลอรี่
แต่สำหรับผู้ที่ทำงานหนักมากๆ หรือผู้ที่ต้องใช้พลังงานมากๆ อาทิ นักกีฬา หรือกรรมกร ก็ต้องบริโภคอาหารที่ให้พลังงานในจำนวนที่มากกว่านี้ แคลอรี่คืออะไร
แคลอรี่เป็นหน่วยวัดพลังงาน หนึ่งแคลอรี่คือปริมาณความร้อนที่ทำให้น้ำ 1 กรัมมีอุณหภูมิสูงขึ้น 1 องศาเซลเซียส ส่วนพลังงานที่ใช้ในร่างกายและพลังงานที่ได้รับจากอาหารเรียกเป็น กิโลแคลอรี่ นั่นหมายถึงปริมาณความร้อนที่ทำให้น้ำ 1 กิโลกรัมมีอุณหภูมิสูงขึ้น 1 องศาเซลเซียส ร่างกายของเราต้องการพลังงานวันละ 25 กิโลแคลอรี่ ต่อน้ำหนักตัวหนึ่งกิโลกรัม โดยทั่วไปจะมีน้ำหนักเฉลี่ยที่ 50 กิโลกรัม นั่นหมายถึงจะต้องการพลังงานขั้นต่ำสุดประมาณวันละ 1,250 กิโลแคลอรี่ แต่เนื่องจากในชีวิตประจำวันนั้นเราต้องมีกิจกรรมอื่นๆ ทำอีกมากมาย เช่นเดินขึ้นบันได วิ่งออกกำลังกาย นั่งทำงาน ฯลฯ จึงต้องการพลังงานโดยเฉลี่ยแล้ววันละประมาณ 2,000 กิโลแคลอรี่นั่นเองค่ะ