ดอกคำฝอย มีสรรพคุณและประโยชน์อย่างไรบ้าง

Exclusive อาหารเพื่อสุขภาพ - สมุนไพร

ดอกคำฝอย มีชื่อภาษาอังกฤษว่า Safflower และมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Carthamus tinctorius L. เป็นพืชตระกูลเดียวกับดอกทานตะวัน ดอกมีสีเหลืองเหมือนกัน แต่มีขนาดเล็กกว่ามาก มีถิ่นกำเนิดมาจากตะวันออกกลาง ในเมืองไทยบ้านเรามักพบได้ตามภาคเหนือ โดยเฉพาะในจังหวัดเชียงใหม่และเชียงราย จัดเป็นไม้ล้มลุก มีความสูงประมาณ 40-130 ซม. มีอายุสั้น แต่ทนแล้งได้ดี มักขึ้นในดินร่วนปนทราย เจริญเติบโตได้ดีในที่สูงและที่ที่มีอากาศเย็น

มีสรรพคุณและประโยชน์ดังต่อไปนี้

  1. ลดคลอเรสเตอรอล

จากการศึกษาค้นคว้าทดลองพบว่า ผู้ป่วยที่มีภาวะไขมันในเลือดสูงที่ดื่มน้ำดอกคำฝอยผสมกับน้ำมันรำข้าวเป็นประจำในเวลาประมาณ 3 เดือน จะช่วยให้สามารถลดระดับคลอเรสเตอรอลในร่างกายลงได้

  1. ลดความดันโลหิต

เนื่องจากดอกคำฝอยมีสารเซโรโทนินและพอลีฟีนอล ที่มีคุณสมบัติช่วยลดการอุดตันของไขมันในหลอดเลือดแดง ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของภาวะความดันโลหิตสูง จึงอาจสรุปได้ว่าการรับประทานดอกคำฝอยช่วยควบคุมระดับความดันของโลหิตได้

  1. ลดระดับน้ำตาลในเลือด

จากผลวิจัยการศึกษาพบว่าดอกคำฝอยสามารถลดระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ที่ป่วยเป็นโรคเบาหวานได้ โดยรับประทานน้ำมันจากดอกคำฝอยวันละ 8 กรัม ซึ่งจะมีส่วนช่วยในการลดระดับน้ำตาลในเลือด อีกทั้งยังช่วยเพิ่มไขมันดีในร่างกายอีกด้วย

  1. บำรุงหัวใจ

ในดอกคำฝอยมีสารฟลาโวนอยด์ และอัลคาลอยด์ ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ที่มีส่วนช่วยในการป้องกันโรคหัวใจ อีกทั้งยังทำให้เลือดไปเลี้ยงหัวใจได้มากขึ้น ต้านทานการขาดเลือดของหัวใจ และยังป้องกันภาวะหลอดเลือดหัวใจตีบได้อีกด้วย

  1. บำรุงเลือดประจำเดือน

ดอกคำฝอยนับว่าเป็นยาสมุนไพรที่ช่วยบำรุงเลือดในผู้หญิงที่มีประจำเดือน เพราะมีฤทธิ์อุ่น จึงมีสรรพคุณช่วยลดอาการปวดท้องน้อยเวลามีประจำเดือน ช่วยขับเลือด ขับระดูที่ตกค้างอยู่ และยังช่วยขับน้ำคาวปลาหลังคลอดได้อีกด้วย

  1. แก้หวัด ขับเสมหะ

ดอกคำฝอยมีสรรพคุณช่วยแก้หวัดและขับเสมหะได้ โดยเฉพาะน้ำดอกคำฝอยร้อน ๆ สามารถลดน้ำมูกได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังมีคุณสมบัติช่วยต้านทานการอักเสบและเชื้อบางชนิดได้ จึงช่วยขับเสมหะและแก้หวัดได้นั่นเอง

แม้ว่าดอกคำฝอยจะมีประโยชน์ต่าง ๆ มากมาย แต่การรับประทานดอกคำฝอยก็มีข้อควรระวังอยู่บ้างนั่นก็คือ ผู้ที่มีภาวะเลือดออกง่ายไม่ควรรับประทาน เพราะอาจจะทำให้เลือดแข็งตัวช้าลง เนื่องจากดอกคำฝอยมีฤทธิ์ในการละลายลิ่มเลือดนั่นเอง นอกจากนั้นหญิงตั้งครรภ์ก็ไม่ควรรับประทานดอกคำฝอย เพราะอาจทำให้มดลูกบีบตัวจนแท้งบุตรได้ ส่วนในผู้ที่เป็นโรคเบาหวานควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทาน เพราะดอกคำฝอยทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดมีการเปลี่ยนแปลงนั่นเอง