ไอบูโปรเฟน ยาที่มีสรรพคุณมากกว่าแก้ปวด

ยาน่ารู้

ไอบูโปรเฟน (Ibuprofen) เป็นยากลุ่มแก้อักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (Nonsteroidal Anti-Inflammatory Drugs: NSAIDs) มักใช้เพื่อลดอาการปวด บวม ลดไข้ และลดอาการอักเสบจากสาเหตุต่างๆ เช่น ปวดหัว ปวดฟัน ปวดหลัง ปวดประจำเดือน ข้อต่ออักเสบ อาการปวดจากไข้หวัด เป็นต้น

รูปแบบของยา

  1. ยาเม็ดหรือยาแคปซูล ประกอบด้วยตัวยาขนาด 200, 300, 400, 600 และ 800 มิลลิกรัม
  2. ยาเม็ดชนิดเคี้ยว ประกอบด้วยตัวยาขนาด 100 มิลลิกรัม
  3. ยาน้ำเชื่อม ประกอบด้วยตัวยาความเข้มข้น 100 มิลลิกรัมในยา 5 มิลลิลิตร หรือประมาณ 1 ช้อนชา
  4. ยาน้ำแขวนตะกอน ประกอบด้วยตัวยาขนาด 50 มิลลิกรัมต่อ 1.25 มิลลิลิตร สำหรับเด็กอายุ 6 เดือนจนถึงไม่เกิน 2 ปี และขนาด 100 มิลลิกรัมต่อ 5 มิลลิลิตร สำหรับเด็กอายุ 6 เดือนถึง 11 ปี
  5. ยาทาภายนอก จะอยู่ในรูปแบบครีม เจล และสเปรย์ ปริมาณความเข้มข้น 5%
  6. ยาฉีด ประกอบด้วยตัวยาขนาด 10 มิลลิกรัมต่อ 1 มิลลิลิตร บรรจุอยู่ในขวดยา 2 มิลลิลิตร และขนาด 100 มิลลิกรัมต่อ 1 มิลลิลิตร บรรจุอยู่ในขวดยา 4 และ 8 มิลลิลิตร

สรรพคุณของยา

  1. ใช้แก้อาการข้ออักเสบ โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ โรคข้อเสื่อมชนิดรุนแรง โรคข้อสันหลังอักเสบเรื้อรัง โรคเกาต์ระยะเฉียบพลัน และการอักเสบของถุงเล็กๆ ที่บรรจุน้ำไขข้อ
  2. ใช้เป็นยาบรรเทาการอักเสบของกล้ามเนื้อและเส้นเอ็น เช่น ข้อเคล็ด ข้อแพลง เส้นเอ็นอักเสบ เป็นต้น
  3. ใช้บรรเทาอาการปวดศีรษะไมเกรน
  4. ใช้บรรเทาอาการปวดประจำเดือน
  5. ใช้บรรเทาอาการปวดทั่วไป เช่น ปวดหัว ปวดฟัน ปวดหลัง ปวดข้อ ปวดกล้ามเนื้อ เป็นต้น
  6. ใช้เป็นยาลดไข้

คำแนะนำในการใช้ยา

  1. ควรรับประทานพร้อมมื้ออาหาร หรือหลังอาหาร และดื่มน้ำตามมากๆ เพราะตัวยาอาจก่อให้เกิดการระคายเคืองในกระเพาะอาหาร
  2. หากมีโรคประจำตัวหรือรับประทานยาอื่นอยู่ก่อนแล้ว ควรแจ้งให้แพทย์ทราบด้วย เพราะโรคหรือยาบางตัวอาจทำปฏิกิริยาต่อกัน ซึ่งอาจจะทำให้เกิดผลข้างเคียงที่รุนแรงกับผู้ใช้ยาได้
  3. หญิงมีครรภ์ไม่ควรรับประทานยานี้ โดยเฉพาะหญิงที่ตั้งครรภ์เข้าสู่ไตรมาสที่ 3 คือ 7-9 เดือนสุดท้ายก่อนคลอด
  4. ห้ามใช้ยาไอบูโปรเฟนกับยาแอสไพรินโดยเด็ดขาด เพราะอาจจะทำให้เกิดอาการแพ้ยาอย่างรุนแรง
  5. ไม่ควรดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ขณะใช้ยา เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะเลือดออกในกระเพาะอาหารและลำไส้

ผลข้างเคียงจากการใช้ยา

การใช้ยาไอบูโปรเฟนอาจทำให้เกิดอาการมึนงง ปวดศีรษะ ปวดท้อง แสบร้อนกลางอก คลื่นไส้ อาเจียน ท้องผูก ท้องเสีย เหนื่อยง่าย หายใจผิดปกติ บวมน้ำ มีผื่นแดง ส่วนผลข้างเคียงที่รุนแรงจะได้แก่ เลือดออกในระบบทางเดินอาหาร เกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด หัวใจวาย เป็นต้น ถ้าเกิดอาการเหล่านี้ให้นำผู้ป่วยมาพบแพทย์ทันที