กำจัดสารพิษบนใบหน้าด้วยเคล็ดลับที่ประหยัดเงิน

ความสวย ความงาม ใบหน้า

ในแต่ละวันเราต้องเจอกับสารพิษต่างๆ มากมายที่อยู่รอบตัวเรา นอกจากสารพิษเหล่านั้นจะส่งผลเสียต่อสุขภาพของเราแล้วยังส่งผลเสียต่อร่างกายในเรื่องของผิวพรรณ ซึ่งเกี่ยวข้องกับความสวยความงามอีกด้วย โดยสารพิษที่ว่านี้รวมไปถึงเชื้อโรคและแบคทีเรียต่างๆ ที่อยู่ในมลภาวะทางอากาศ ไม่ว่าจะเป็น ฝุ่น ควัน แสงแดด ฯลฯ เป็นต้น ตัวการเหล่านี้ส่งผลเสียต่อผิวพรรณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสาวๆ ทำให้มีใบหน้าที่หมองคล้ำ เกิดฝ้า กระ และจุดด่างดำต่างๆ รวมถึงสิวอุดตันและสิวอักเสบด้วย

ดังนั้น วันนี้เราจะมาแนะนำวิธีการกำจัดสารพิษบนใบหน้า และต้องบอกก่อนเลยว่าสาวๆ ไม่จำเป็นต้องควักกระเป๋าจ่ายแพงเพราะเคล็ดลับที่เราจะแนะนำต่อไปนี้เป็นเคล็ดลับที่ประหยัดเงิน แถมยังได้ผลลัพธิ์ที่ดีเกิดคาด จะมีเคล็ดลับไหนบ้างตามไปดูกันเลย

1.ล้างหน้าให้ถูกวิธี

สาวๆ ไม่ต้องลงทุนอะไรเลยเพราะการกำจัดสารพิษบนใบหน้าด้วยวิธีการ ล้างหน้า เป็นวิธีที่เบสิคที่สุดที่ไม่ว่าใครก็ต้องทำกันอยู่แล้ว แต่ปัญหาคือหลายคนมักจะล้างหน้าไม่ถูกวิธี จึงส่งผลให้สารพิษเหล่านั้นไม่ถูกชำระล้างออกไปจากผิวหน้า การล้างหน้าที่ถูกวิธีคือ อันดับแรกต้องล้างมือให้สะอาดก่อน หรือหากบนใบหน้ายังมีเครื่องสำอางติดอยู่ก็ควรเช็ดออกให้หมดก่อนล้างหน้า หลังจากนั้นจึงทำการล้างหน้าให้สะอาดโดยในขณะที่ล้างให้ล้างไปตามระนาบเดียวกันกับเส้นขน เพื่อลดการเสียดสี และการระคายเคือง ที่สำคัญยังช่วยกำจัดสิ่งสกปกกได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย

2.อบไอน้ำแบบประหยัด

จะบอกว่าวิธีนี้ใช้ได้ผลดีมากๆ ที่สำคัญยังประหยัดเงินในกระเป๋าอีกด้วย เพียงแค่ต้มน้ำใส่หมอให้น้ำเดือดจนเกิดเป็นความร้อนและมีไอร้อนขึ้นมา หลังจากนั้นให้ยกหม้อน้ำร้อนลง เทใส่อ่างไว้ ก่อนนำผ้าหนูมาคลุมหัวและอ่างเพื่ออบไอน้ำให้แก่ผิวหน้า รอจนครบ 15 นาที หรือรอจนความร้อนเย็นลงเป็นอันเสร็จสิ้น ควรหมั่นอบไอน้ำผิวหน้าเป็นประจำอาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง จะช่วยในการชำระล้างสารพิษได้ดียิ่งขึ้นหรือเรียกว่าการ ดีท็อกซ์ สิ่งสกปรกออกจากผิวหน้าเป็นการขจัดสิ่งอุดตัน ลดการเกิดสิว และเพื่อให้รูขุมขนกระชับมากยิ่งขึ้น อีกหนึ่งผลพลอยได้ที่ตามมาก็คือ ช่วยให้สาวๆ มีใบหน้าที่ขาวใส แก้มอมชมพูเพราะการอบไอน้ำเป็นการช่วยกระตุ้นให้เลือดลมไหลเวียนได้ดียิ่งขึ้น นอกจากจะมีผิวพรรณที่สวยงามและยังได้ในเรื่องของสุขภาพร่างกายที่ดีอีกด้วย

3.มากส์หน้าด้วยไข่ขาว

ไข่ขาว อุดมไปด้วยสารโพแทสเซียมในปริมาณที่สูง มีคุณสมบัติช่วยดีท็อกซ์ผิวพรรณให้ผ่องใส และช่วยกำจัดสิวเสี้ยนหรือสิวอุดตันต่างๆ ได้เป็นอย่างดี นอกจากนั้นยังส่งผลดีต่อระบบการทำงานของหัวใจอีกด้วย หลายคนนิยมนำไข่ขาวมาพอกใบหน้าเพื่อให้การกำจัดสารพิษ และทำให้มีใบหน้าที่ขาวใสไร้สิวมากยิ่งขึ้น เพียงแค่น้ำไข่ไก่มาแยกไข่แดงและไข่ขาวออกจากกัน หลังจากนั้นนำเฉพาะในส่วนของไข่ขาวมาพอกใบหน้าให้ทั่ว ทิ้งไว้ข้ามคืน ตื่นเช้าขึ้นมาให้ล้างหน้าด้วยน้ำสะอาดตามปกติ จะช่วยขับล้างสารพิษออกจากรูขุมขนและทำให้สาวๆ มีผิวพรรณที่สวยงามผ่องใส ไร้สิว นั่นเอง

4.ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

การออกกำลังกาย นอกจากจะได้ในเรื่องของสุขภาพและช่วยเผาผลาญไขมันทำให้สาวๆ มีรูปร่างที่ผอมเพรียว หุ่นสวยแล้ว ยังเปรียบเสมือนการดีท็อกซ์สารพิษออกจากรูขุมขนอีกด้วยเพราะเหงื่อที่ไหลออกมาจะช่วยชำระล้างสิ่งสกปรกในรูขุมขน นอกจากนั้นการออกกำลังกายยังทำให้อัตราการเต้นของหัวใจทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้เลือดลมไหลเวียนได้ดีขึ้น ส่งผลให้สาวๆ มีผิวพรรณที่สวยงาม ใบหน้าขาวใส เกิดเลือดฝาดทำให้มีแก้มอมชมพู ดังนั้น หากต้องการเห็นผลลัพธ์ที่ดีควรออกกำลังกายเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ รับลองว่าสาวๆ จะต้องมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงพร้อมผิวพรรณที่สวยงามอย่างแน่นอน

5.ขับล้างสารพิษด้วย น้ำมะนาว

น้ำมะนาว หาซื้อได้ง่ายๆ ตามท้องตลาดราคาไม่แพง บางบ้านปลูกไว้กินเองในสวน หรือข้างริมรั้ว เนื่องจาก มะนาว ช่วยขับล้างสารพิษจากภายในสู่ภายนอก น้ำมะนาวมีกรดที่ออกฤทธิ์กระตุ้นให้เกิดการขับถ่าย ช่วยชำระล้างสิ่งสกปรกที่อยู่ภายในลำไส้ เมื่อสิ่งสกปรกที่อยู่ภายในถูกดีท็อกซ์ออกไป ผลลัพธ์ที่ได้ตามมาคือในเรื่องของผิวพรรณที่ดูเรียบเนียนและสดใสมากยิ่งขึ้น เพียงแค่นำผลของมะนาวสด 1 ลูก มาบีบคั้นให้ได้น้ำมะนาว จากนั้นนำไปต้มผสมกับน้ำอุ่น ดื่มตอนท้องว่างในตอนเช้าๆ เพื่อประสิทธิภาพในการดีท็อกซ์ของเสีย รวมไปถึงไขมันส่วนเกินที่ร่างกายไม่ต้องการ หากสาวๆ ทำแบบนี้เป็นประจำทุกวัน รับลองว่าจะได้ผลดีทั้งในเรื่องของการลดน้ำหนัก สุขภาพร่างกายที่ดีและผิวพรรณที่สวยงามไปพร้อมๆ กันเลยทีเดียว

 

ทั้งหมดนี้ก็คือ การขับล้างสารพิษบนใบหน้าที่ไม่ว่าใครก็สามารถทำได้ง่ายๆ อย่าลืมเอาเคล็ดลับเหล่านี้ไปใช้ รับลองว่าสาวๆ จะต้องมีผิวพรรณที่สวยงาม โดยไม่ต้องเสียเงินแพงเพื่อซื้อครีมหรือผลิตภัณฑ์ช่วยดีท็อกซ์ผิว และบางผลิตภัณฑ์อาจมีส่วนผสมของสารเคมีที่เป็นอันตรายหรืออาจเกิดผลข้างเคียงร้ายแรงต่างๆ ตามมา แต่วิธีที่เราได้เอามาแนะนำทั้งหมดนี้ บอกเลยว่าไม่มีอันตราย ที่สำคัญยังเป็นเคล็ดลับที่ช่วยประหยัดเงินได้มากอีกด้วย