นักเรียนกับอันตรายจากกระเป๋าสบายหลัง

ไลฟ์สไตล์

ในช่วงเปิดเทอม สิ่งที่เราได้เห็นจนคุ้นตา คงหนีไม่พ้นเหล่านักเรียนที่สะพายกระเป๋าใบโตไปโรงเรียนกันนะคะ และแน่นอนว่าน้ำหนักภายในกระเป๋าอาจจะหนักเกินตัวกว่าเจ้าของกระเป๋าเสียอีก ยิ่งในประเทศไทยเวลาที่เด็กโดยสารประจำทางสาธารณะ ก็ยิ่งต้องแบกน้ำหนักและสร้างบาลานซ์ให้กับตนเอง แย่ไปกว่านั้น หากรถคันที่โดยสารไปเกิดแน่นขนัด ย่อมจะเกิดอันตรายต่อตัวเด็กเองเวลาก้าวขึ้นลงรถ ซึ่งประเด็นนี้เองทำให้ในต่างประเทศอย่างประเทศออสเตรเลีย นักกายภาพบำบัดได้ออกมาแสดงความวิตกเกี่ยวกับการที่เด็กนักเรียนต้องแบกกระเป๋าที่มีน้ำหนักมากเกินไปโรงเรียนทุกวันว่าเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องนัก และอาจจะก่อให้เกิดอันตรายได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกระเป๋าแบบเป้สะพายหลัง เพราะการแบกรับของที่มีน้ำหนักมากเกินไปไว้บนหลังทุกวันจะมีผลทำให้การยืนและการทรงตัวของเด็กผิดไป ซึ่งอาจนำไปสู่อาการปวดบริเวณคอ ไหล่ และหลัง เด็กกับผู้ใหญ่มีความคล้ายคลึงกัน ถ้าต้องแบกหรือยกอะไรหนัก ๆ บ่อย ๆ เข้าก็ย่อมมีอาการปวด เมื่อยล้า

ในประเทศไทยนั้น มูลนิธิคุ้มครองผู้บริโภคได้ออกมาชี้แนะว่า เด็กในระดับชั้นป.1-ป.3 ไม่ควรแบกกระเป๋านักเรียนหนักเกินร้อยละ 10 ของน้ำหนักตัว แต่ประมาณ 80%  ของนักเรียนชั้นประถมศึกษายังใช้กระเป๋าหนักเกินร้อยละ 20 ของน้ำหนักตัว ซึ่งถือได้ว่าเป็นสถานการณ์ที่วิกฤติมาก


และการสำรวจเด็กนักเรียนชาวออสเตรเลียกว่า 1,200 คน ที่มีอายุระหว่าง 12-18 ปี พบว่าพวกเขาต้องถือกระเป๋าที่มีน้ำหนักมากกว่า 5 กิโลกรัมไปโรงเรียนทุกวันซึ่งส่งผลเสียต่อสุขภาพของพวกเขา สมาคมกายภาพบำบัดประเทศออสเตรเลีย (Australian Physiotherapy Association) จึงได้ออกมาแนะนำถึงการใช้กระเป๋าสะพายหลังอย่างถูกวิธีแก่เด็ก ๆ ไว้ดังนี้

วิธีการเลือกกระเป๋าให้ถูกต้อง
1. ควรเลือกกระเป๋าให้พอดีกับขนาดตัวของเด็ก ไม่ใหญ่หรือเล็กเกินไป เนื่องจากหากกระเป๋าที่เด็กสะพายไม่พอดีกับช่วงหลัง จะยิ่งไปเพิ่มน้ำหนักแรงถ่วงมากขึ้นเมื่อใส่สัมภาระลงในกระเป๋า
2. กระเป๋าจะต้องไม่ยื่นเหนือไหล่เวลานั่ง
3. ควรเลือกกระเป๋าที่มีช่องแยกเก็บเป็นสัดส่วน เพื่อให้จัดของที่มีน้ำหนักมากไว้ใกล้ตัวได้
4. สายกระเป๋าสำหรับสะพายควรมีขนาดกว้าง ทำด้วยวัสดุที่รองรับหลังและไหล่ได้ดี และสามารถปรับระดับได้ เพื่อลดการบาดเจ็บจากแรงกดทับของกระเป๋า

วิธีการจัดกระเป๋าให้ถูกหลัก
1. หลีกเลี่ยงการใส่หนังสือจำนวนมากเกินไปลงในกระเป๋า และไม่ควรให้น้ำหนักสิ่งของในกระเป๋าหนักเกิน 10% ของน้ำหนักตัวผู้ใช้
2. ควรวางแผนล่วงหน้าว่าจะนำอะไรไปบ้าง โดยหลีกเลี่ยงที่จะไม่นำเอาอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น เครื่องดนตรี อุปกรณ์กีฬา หรืออุปกรณ์งานศิลปะ ไปโรงเรียนในวันเดียวกัน
3. จัดของในกระเป๋าให้เป็นสัดส่วน โดยให้ของที่มีน้ำหนักมาก เช่นโน้ตบุ๊กอยู่ใกล้ร่างกายที่สุด

วิธีการสะพายกระเป๋าอย่างถูกต้องและปลอดภัย
1. เมื่อสะพายกระเป๋าแล้ว ควรดูให้แน่ใจว่ากระเป๋าไม่ได้หย่อนหรือรั้งไปข้างหลังมากเกินไป
2. ควรสะพายกระเป๋าไว้ที่ไหล่ทั้งสองข้าง และอย่าสะพายไว้ที่ไหล่ข้างใดข้างหนึ่ง
3. ควรใช้สายรัดเอวที่ติดมากับกระเป๋าเพื่อให้น้ำหนักอยู่ตรงตำแหน่งเดิม ไม่แกว่งไปมาขณะเดินหรือขี่จักรยาน
4. อย่าสะพายกระเป๋านานเกินไป ควรวางพักบ้างเป็นระยะ เพื่อผ่อนคลายช่วงไหล่และหลัง

เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว คุณพ่อคุณแม่ก็ไม่ควรชะล่าใจปล่อยให้ลูกหลานสะพายกระเป๋านักเรียนหนัก ๆ กันอีกต่อไปนะคะ ควรปรับเปลี่ยนตั้งแต่วันนี้ ดีกว่าต้องมาแก้ไขสารพัดอาการปวดให้กับพวกเขาในภายหลัง

ขอขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก : https://bit.ly/3i1vAL4