น้ำมันละหุ่ง คือ น้ำมันที่ถูกสกัดมาจากต้น ละหุ่ง และต้นละหุ่งนั้นเป็นพืชชนิดหนึ่ง โดยขึ้นชื่อว่ามีคุณประโยชน์มากมายโดยเฉพาะในเรื่องงความสวยความงาม รู้หรือไม่ว่าน้ำมันละหุ่งถูกใช้ประโยชน์มาอย่างยาวนานนับพันปี ในสมัยโบราณมีการใช้น้ำมันละหุ่งเป็นเชื้อเพลิงเพื่อให้แสงสว่างในตอนกลางคืน หรือทำความร้อนเพื่อประกอบอาหาร แต่ในยุคปัจจุบันเทคโนโลยีได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว จึงได้มีการนำเมล็ดละหุ่งมาทำการสกัด ผ่านกรรมวิธีและเทคโนโลยีที่ทันสมัยจนได้ออกมาเป็น น้ำมันละหุ่งสกัดเข้มข้น ที่อุดมไปด้วยกรดชนิดต่างๆ มากมาย เช่น กรดลิโนเลอิก กรดริซิโนเลอิก กรดสเตียริก และกรดโอเลอิก เป็นต้น
และในวันนี้เราจะมาแนะนำคุณประโยชน์ของน้ำมันละหุ่ง ที่สาวๆ ควรรู้ จะมีอะไรบ้างตามไปดูกันเลย
1.บำรุงเส้นผม
สารสกัดจากน้ำมันละหุ่งมีคุณสมบัติช่วยในการบำรุงเส้นผมให้แข็งแรง ลดปัญหาผมขาดหลุดร่วง แก้ปัญหาหนังศีรษะแห้งหรือช่วยขจัดรังแคบนหนังศีรษะได้เป็นอย่างดี สำหรับสาวๆ คนไหนที่มีปัญหาหนังศีรษะแห้ง มีรังแค และผมขาดหลุดร่วงได้ง่าย ก่อนสระผมให้หมักผมด้วยน้ำมันละหุ่ง ชโลมให้ทั่วหนังศีรษะที่เปียกชื้นทั้งไว้ 10 นาที จากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาดและทำการสระผมตามปกติ โดยทำแบบนี้เป็นประจำจะช่วยแก้ปัญหาดังกล่าว และบำรุงเส้นผมได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว
2.ช่วยลดการเกิดสิว
นอกจากน้ำมันละหุ่งจะช่วยลดการเกิดสิวได้แล้ว ยังช่วยทำให้แผลเป็นที่เกิดจากสิวดูจางลงได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นสิวอุดตัน สิวเสี้ยน หรือสิวอักเสบต่างๆ ด้วยวิธีการง่ายๆ คือ หยดน้ำมันละหุ่งลงบนฝามือที่สะอาดประมาณ 2-3 หยด จากนั้นนำมาทาบนใบหน้า นวดไปมาอย่างเบามือเพื่อให้น้ำมันละหุ่งสามารถซึมซับลงบนผิวหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพทำให้รูขุมขนกระชับ เต่งตึงมากยิ่งขึ้น และช่วยในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียในผิวหนังที่เป็นตัวการของการเกิดสิว โดยทำแบบนี้เป็นประจำอาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง และควรทำก่อนอน ทิ้งไว้ข้ามคืนไม่ต้องล้างออก รับลองว่าตื่นเช้าขึ้นมาสาวๆ จะต้องมีใบหน้าที่เนียนใสไร้สิวอย่างแน่นอน
3.ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว
สาวๆ บางคนมีปัญหาผิวแห้งกร้าน ลอกเป็นขุย ยิ่งตกอยู่ในสภาพอากาศแห้งหรือหนาวเย็น ยิ่งทำให้ผิวแห้ง ลอก ตกสะเก็ดและแตกได้ง่ายมากขึ้น ดังนั้น น้ำมันละหุ่งจึงเป็นมอยเจอร์ไรเซอร์ชั้นดีเยี่ยมเลยทีเดียว ในปัจจุบันก็มีผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหลายตัวที่มีส่วนผสมของน้ำมันละหุ่ง เนื่องจากอุดมไปด้วยกรดไขมันที่มีความเข้มข้นสูง จึงช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว ลดปัญหาผิวแห้ง ที่สำคัญยังมีความอ่อนโยนและไม่เป็นอันตรายต่อผิวอีกด้วย เหมาะสำหรับสาวๆ ที่มีผิวแพ้ง่าย เพียงแค่นำสารสกัดจากน้ำมันละหุ่งมานวดหน้า หรือผสมลงไปในน้ำใช้แช่หรืออาบเป็นประจำก็บอกลาปัญหาผิวแห้งนี้ไปได้เลย
4.ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอย
ริ้วรอยแห่งวัยเกิดขึ้นได้จากหลากหลายปัจจัย แต่ตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดริ้วรอยก็คือ มลภาวะทั้งฝุ่น ควัน และแสงแดดที่เป็นตัวทำร้ายผิวให้ผิวแห้งเสียเกิดริ้วรอย ผิวหมองคล้ำ รวมถึงปัญหาฝ้า กระ และจุดด่างดำต่างๆ ด้วยเช่นเดียวกัน แต่เป็นที่ทราบกันดีว่าในน้ำมันละหุ่งประกอบไปด้วยสารช่วยต้านอนุมูลอิสระจำนวนมากที่มีคุณสมบัติช่วยให้ผิวแข็งแรงดูมีสุขภาพดี และกระชับเต่งตึงมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญยังช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยแก้ปัญหาการเกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควรได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว
5.เพิ่มความชุ่มชื้นให้ริมฝีปาก
เช่นเดียวกัน ในปัจจุบันได้มีการใช้สารสกัดจากน้ำมันละหุ่งเป็นส่วนประกอบหลักในลิปสติกหรือลิปกลอส ใช้สำหรับทาปากหลายยี่ห้อ เพราะน้ำมันละหุ่งมีคุณสมบัติช่วยป้องกันปัญหาปากแห้ง ลอกเป็นขุย ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ริมฝีปาก หรือหากสาวๆ มีสารสกัดจากน้ำมันละหุ่งอยู่แล้วก็ไม่จำเป็นต้องซื้อลิปสติกกันปากแห้งมาทาก็ได้ เพียงแค่นำสารสกัดน้ำมันละหุ่งมาทาบริเวณริมฝีปาก ก่อนทาด้วยลิปสติกสีที่ตนเองชื่นชอบจะช่วยลดปัญหาปากแห้งได้เป็นอย่างดี หรือจะบำรุงปากก่อนนอนก็ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นได้เช่นเดียวกัน
6.ช่วยทำความสะอาดใบหน้า
สารสกัดจากน้ำมันละหุ่ง ช่วยในการทำความสะอาดใบหน้าได้อย่างล้ำลึก โดยเฉพาะในเวลาที่สาวๆ ต้องการจะล้างเครื่องสำอางออกจากใบหน้า ด้วยวิธีง่ายๆ คือ หลังจากล้างหน้าให้สะอาดให้ใช้ผ้าชุบกับน้ำมันละหุ่งแล้วนำมาเช็ดถูคาบบนใบหน้า ขัดถูอย่างเบามือให้ทั่ว หลังจากนั้นล้างหน้าด้วยน้ำอุ่นอีกครั้ง ซึ่งนอกจากจะช่วยขจัดคาบหรือสิ่งสกปรกบนใบหน้าได้อย่างล้ำลึกแล้วยังช่วยให้สาวๆ มีสีผิวที่สม่ำเสมอกันอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ในการใช้ประโยชน์จากน้ำมันละหุ่งก็มีข้อควรระวังอยู่บ้างก็คือ หากใช้เพื่อรับประทาน ไม่ควรรับประทานในปริมาณที่มากจนเกินไป สตีมีครรภ์ควรหลีกเลี่ยงเพราะอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายตามมา เช่น ท้องเสีย ตกเลือดหรือบุตรคลอดเร็วกว่ากำหนด เป็นต้น บางคนใช้แล้วเกิดอาการแพ้ มีผื่นคันหรือเกิดการระคายเคืองต่างๆ ตามมา ดังนั้น ก่อนใช้ควรทดสอบอาการแพ้ทางผิวหนังก่อนเสมอ เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวหนังเกิดภาวะแพ้ คัน หรือเป็นผื่นแดงนั่นเอง
