ผักหวานป่า มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Melientha suavis Pierre เป็นผักพืชบ้านของไทย และขึ้นอยู่ทั่วไปในประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น พม่า ลาว กัมพูชา เวียดนาม มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ เป็นต้น ผักหวานป่ามีรสชาติหวานอร่อย แต่ค่อนข้างจะหารับประทานได้ยาก เพราะจะขึ้นในช่วงประมาณเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนเมษายนเท่านั้น โดยอาจจะมีขึ้นในช่วงอื่นอยู่บ้าง แต่ก็จะมีราคาแพง ซึ่งในปัจจุบันมีการนำมาปลูกเป็นพืชเศรษฐกิจกันมากขึ้น
เนื่องจากผักหวานป่ามีสรรพคุณและประโยชน์หลายอย่าง อันได้แก่
- เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
ผักหวานป่าอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุมากมายหลายชนิด อาทิเช่น วิตามินเอ วิตามินบี วิตามินซี ธาตุเหล็ก ฟอสฟอรัส แคลเซียม เบต้าแคโรทีน เป็นต้น ซึ่งล้วนแล้วแต่มีประโยชน์ต่อร่างกายทั้งสิ้น เมื่อรับประทานเข้าไป ก็จะทำให้ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง สามารถต่อสู้และต้านทานโรคต่างๆ ได้
- บำรุงสายตา
เนื่องจากผักหวานป่ามีวิตามินเอค่อนข้างสูง และยังมีเบต้าแคโรทีน ที่ช่วยในการมองเห็น สามารถลดอาการตาล้า ทั้งยังช่วยดูแล ฟื้นฟู และบำรุงสายตาอีกด้วย เหมาะสำหรับคนทำงานที่ต้องใช้สายตาเป็นประจำ อย่างพนักงานออฟฟิศ ช่างเฉพาะทางต่างๆ เป็นต้น
- บำรุงกระดูกและฟัน
ในผักหวานป่า 100 กรัม มีแคลเซียม 24 มิลลิกรัม และมีฟอสฟอรัส 68 มิลลิกรัม ซึ่งช่วยในการบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง ลดความเสี่ยงของกระดูกข้อเข่าเสื่อม และลดการแตกหักหรือเปราะของกระดูก รวมทั้งยังป้องกันโรคกระดูกพรุนได้อีกด้วย
- เป็นยาระบายอ่อนๆ
ผักหวานป่ามีไฟเบอร์หรือกากใยอาหาร ที่ช่วยในการกระตุ้นการทำงานของลำไส้ ทำให้ขับถ่ายได้ดียิ่งขึ้น ใครที่มีปัญหาท้องผูก ถ่ายยาก หากหันมารับประทานผักหวานป่าอย่างเป็นประจำ รวมทั้งผักอื่นๆ ด้วย รับรองว่าจะเป็นตัวช่วยในการเป็นยาระบายอ่อนๆ ได้อย่างแน่นอนค่ะ
- ป้องกันเหน็บชา
วิตามินบีสามารถป้องกันโรคเหน็บชาได้ ซึ่งพบได้ในผักหวานป่า หากต้องการหลีกเลี่ยงการรับประทานยาหรือวิตามินเสริม ให้เปลี่ยนมารับประทานผักหวานป่า จะช่วยให้สามารถป้องกันอาการเหน็บชาได้
- ช่วยลดน้ำหนัก
ผักหวานป่าจำนวน 100 กรัม ให้พลังงานเพียง 39 กิโลแคลอรี่เท่านั้น ซึ่งนับว่าน้อยมากหากเทียบกับอาหารประเภทอื่นๆ ที่ไม่ค่อยมีประโยชน์ ใครที่กำลังลดน้ำหนักหรือต้องการควบคุมไขมัน ให้หันมารับประทานผักหวานป่าไปพร้อมกับการออกกำลังกาย ในไม้ช้าคุณก็จะมีหุ่นที่สวยดั่งใจได้แน่นอน
- ต้านมะเร็ง
เนื่องจากผักหวานป่าอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งนอกจากจะช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ในร่างกายแล้ว ยังไปต่อต้านและยับยั้งการเกิดของเซลล์มะเร็งอีกด้วย ทำให้ร่างกายแข็งแรงพร้อมต้านทานโรคร้ายได้
ผักหวานป่าสามารถนำมาประกอบอาหารได้หลากหลาย เช่น แกงส้ม แกงเลียง แกงอ่อม ต้มจืด จะนำไปผัดน้ำมัน หรือจะจิ้มกินกับน้ำพริกสดๆ ก็ได้ เนื่องจากมีรสชาติอร่อย และที่สำคัญยังมีประโยชน์ต่อร่างกายอีกด้วย