วันนี้ ( 13 มีนาคม 2563) ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต ผู้นำฟิลิปปินส์ ประกาศว่า ฟิลิปปินส์ใช้มาตรการควบคุบผู้เข้าเมืองอย่างเข้มข้น และระงับการเดินทางทั้งทางบก, ทะเลและอากาศภายในประเทศทั้งเข้าและออกกรุงมะนิลา เมืองหลวง ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาเรียกว่า “การปิดเมืองหลวง” เพื่อสกัดการระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยดูเตอร์เตเห็นชอบกับมาตรการต่าง ๆ รวมทั้งการห้ามชุมนุมใหญ่, การปิดโรงเรียนหนึ่งเดือน และการปิดชุมชน อีกทั้งยังขู่ลงโทษจำคุกเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นที่ฝ่าฝืนคำสั่งของรัฐบาลด้วย
ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เตา เข้าตรวจร่างกายหาเชื้อไวรัสด้วยเมื่อวันพฤหัสบดี เนื่องจากปรากฏอาการ กล่าวว่า มาตรการต่าง ๆ จะรวมทั้งการห้ามชาวต่างชาติเดินทางจากประเทศที่มีการระบาดของไวรัสเข้าฟิลิปปินส์ หลังจากพบมีการติดเชื้อภายในท้องถิ่นของฟิลิปปินส์รายแรกเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา และรวมตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มเป็น 52 รายแล้ว ซึ่งในจำนวนนี้ มีผู้เสียชีวิต 5 ราย ส่งผลให้ฟิลิปปินส์ต้องปิดกรุงมะนิลา
การควบคุมการเดินทางและการปิดเมืองกักบริเวณประชาชนครั้งนี้ จะเป็นมาตรการควบคุมเชื้อไวรัสภายในประเทศที่เข้มงวดที่สุดต่อจากจีนและอิตาลี
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ผู้นำฟิลิปปินส์ เดินทางไปเข้าร่วมงานหนึ่งกับเจ้าหน้าที่คนหนึ่ง ซึ่งในเวลาต่อมาถูกตรวจพบว่าติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และผู้นำฟิลิปปินส์จะรู้ผลตรวจร่างกายของตัวเองในวันเสาร์นี้ ขณะที่ รัฐมนตรี 6 คน, ส.ส. 16 คน, นายกเทศมนตรีกรุงมะนิลา 6 คน และผู้ว่าการธนาคารกลาง ต่างพากันกักตัวเองเพื่อเป็นมาตรการป้องกันล่วงหน้า
ทั้งนี้ กรุงมะนิลา มีประชากรอย่างเป็นทางการเกือบ 13 ล้านคน แต่ตัวเลขที่แท้จริงน่าจะสูงกว่านี้มาก เพราะมีผู้เข้าเมืองที่ไม่ได้ผ่านการตรวจอีกจำนวนมากและยังมีผู้ที่ตั้งหลักปักฐานอย่างไม่เป็นทางการอีกหลายล้านคน
