รากบัว มีชื่อภาษาอังกฤษว่า Lotus root และมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Nelumbo nucifera Gaertn. รากบัวคือส่วนของลำต้นบัวที่อยู่ใต้ดิน มีหน้าที่สะสมอาหาร จึงอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เจริญเติบโตในแนวนอน มีลักษณะเป็นท่อนยาวต่อกัน โดยแบ่งเป็นปล้อง ๆ เมื่อนำมาผ่าตามแนวขวางจะพบรูกลมเรียงตัวเป็นรัศมีอยู่โดยรอบ
มีสรรพคุณและประโยชน์ดังต่อไปนี้
- ช่วยย่อยอาหาร
เนื่องจากรากบัวมีกากใยอาหารสูง จึงมีส่วนช่วยในการย่อยอาหารได้เป็นอย่างดี ช่วยกระตุ้นการเคลื่อนไหวและการบีบตัวของลำไส้ ทำให้ขับถ่ายได้ง่ายขึ้น ช่วยแก้อาการท้องผูก ปรับอาการถ่ายยากให้ดีขึ้นได้
- ควบคุมความดันโลหิต
ในรากบัวมีธาตุโพแทสเซียมเป็นส่วนประกอบ การรับประทานรากบัวจะช่วยให้สมดุลร่างกายเป็นปกติ ทำให้ร่างกายไม่มีโซเดียมในปริมาณที่มากเกินไป ส่งผลให้ความดันโลหิตมีค่าปกติ และไม่เสี่ยงเป็นโรคไตอีกด้วย
- ช่วยคลายเครียด
รากบัวมีวิตามินบี ซึ่งมีสารที่ชื่อว่า pyridoxine ซึ่งสารนี้มีคุณสมบัติช่วยคลายเครียด ลดความหงุดหงิด และลดอาการปวดหัวลงได้ เนื่องจากสารนี้มีการทำงานสัมพันธ์กับตัวรับประสาทในสมองนั่นเอง
- ช่วยบำรุงผิวพรรณและเส้นผม
ในรากบัวอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย โดยเฉพาะวิตามินบีและซีที่ช่วยบำรุงผิวพรรณ เล็บ และเส้นผมให้แข็งแรง เงางาม ไม่หลุดร่วงง่าย ดูเปล่งปลั่งสดใสสุขภาพดี และยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้กับผิวหนังอีกด้วย
- ดีต่อการลดน้ำหนัก
เนื่องจากรากบัวมีกากใยอาหารมาก การรับประทานรากบัวจึงช่วยทำให้อิ่มได้นานขึ้น นอกจากนั้นยังมีแคลอรี่ที่ต่ำ การรับประทานรากบัวจึงเป็นตัวเลือกที่ดีอีกตัวหนึ่ง สำหรับผู้ที่ต้องการลดหรือควบคุมน้ำหนักให้คงที่
- ป้องกันการบวมน้ำ
โพแทสเซียมที่อุดมอยู่ในรากบัวนั้น มีคุณสมบัติในการดูดซึมโซเดียมส่วนเกิน และยังส่งผลในการเพิ่มปริมาณของปัสสาวะอีกด้วย การรับประทานรากบัวจึงช่วยป้องกันอาการบวมน้ำ และลดความเสี่ยงจากการเป็นโรคไตได้ในขณะเดียวกัน
- แก้ไอ แก้ร้อนใน กระหายน้ำ
เนื่องจากรากบัวมีฤทธิ์เย็น จึงมีคุณสมบัติช่วยลดความร้อนในร่างกาย และยังช่วยแก้ไอ กระหายน้ำได้อีกด้วย โดยนำรากบัวไปต้มกับน้ำสะอาดประมาณ 10-15 นาที ดื่มวันละ 3-4 ครั้ง ครั้งละ 1 แก้ว โดยค่อย ๆ จิบทีละนิดจนหมดแก้ว ก็จะช่วยทำให้อาการดีขึ้นได้
ด้วยคุณประโยชน์ที่มีมากของรากบัว หลายคนจึงนำมาประกอบอาหารจัดจานให้สวยงามพร้อมรับประทานกัน แต่สำหรับใครที่ยังไม่รู้ว่าจะทำเมนูไหนดี เรามีเมนูเด็ดจากรากบัวมาแนะนำกันค่ะ ซึ่งได้แก่ แกงจืดรากบัว รากบัวผัด หรือจะรับประทานคู่กับน้ำสลัดก็ได้ จะกินสดจิ้มกับน้ำพริกก็ดี หรือใครที่ไม่ค่อยมีเวลาว่างก็สามารถหารากบัวที่อยู่ในรูปแบบอาหารเสริมรับประทานได้ด้วยอีกเช่นกัน และทางที่ดีก็ควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทานด้วยนะคะ
