ว่านหางจระเข้ ประโยชน์ต่อความงามที่คุณไม่เคยรู้มาก่อน

ความสวย ความงาม ผิวหนัง อาหารเพื่อสุขภาพ - สมุนไพร เส้นผม

ว่านหางจระเข้เป็นพืชสมุนไพรที่มีคุณประโยชน์มากมายหลายอย่าง โดยมีการใช้ประโยชน์จากว่านหางจระเข้ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและที่สำคัญยังขึ้นชื่อว่าเป็นยารักษาโรคหรือยาฆ่าเชื้อที่ชาวจีนและชาวไทยโบราณนิยมใช้กันมายาวนาน ตลอดจนช่วยรักษาแผลจากไฟไหม้หรือน้ำร้อนลวกได้ และที่เรากำลังจะมาพูดถึงในวันนี้ ก็คือ สรรพคุณของว่านหางจรเข้ที่ช่วยในเรื่องของความสวยความงาม เชื่อว่าหลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วว่านหางจระเข้นั้นมีประโยชน์ต่อความงามที่น่าทึ่งเลยทีเดียว ชนิดที่เรียกว่าคุณอาจจะยังไม่เคยรู้มาก่อนเลยก็ว่าได้

1.ช่วยรักษาผิวไหม้จากแสงแดด

เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าแสงแดดนั้นเป็นตัวทำร้ายให้ผิวแห้งเสียและเกิดรอยไหม้ ตลอดจนรอยหมองคล้ำต่างๆ ที่สำคัญหากได้รับแสงแดดทีรุนแรงติดต่อกันเป็นเวลานาน อาจทำให้ผิวอักเสบหรือมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งผิวหนังได้ และหากสาวๆ คนไหนที่ถูกแสงแดดทำร้ายให้ผิวไหม้หรือแห้งเสีย ให้นำในส่วนของวุ้นว่านหางจระเข้มาทาที่บริเวณรอยไหม้นั้นจะสามารถช่วยบรรเทาอาการอักเสบและบรรเทาอาการแสบร้อนที่เกิดจากแสงแดดทำร้ายผิวได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว

2.รักษาแผลที่เกิดจากไฟไหม้หรือน้ำร้อนลวก

ว่านหางจระเข้เป็นพืชชนิดเย็น จึงช่วยรักษาแผลที่เกิดจากไฟไหม้หรือน้ำร้อนลวกได้ กันเพียงแค่นำวุ้นภายในว่านหางจระเข้มาทาหรือประคบในบริเวณที่เกิดแผลไฟไหม้หรือน้ำร้อนลวกจะช่วยให้อาการแสบร้อนดังกล่าวทุเลาลงได้ สาเหตุก็เพราะในว่านหางจระเข้จะมีเอนไซม์ชนิดหนึ่งชื่อว่า แบรดดีไคเนส (Bradykinase)  อีกทั้งในว่านหางจระเข้ยังมีกรดซาลิซิลิกที่คอยยับยั้งเชื้อแบคทีเรียและช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวหนังใหม่ขึ้นมาทดแทนผิวหนังที่ผลัดเซลล์ออกไป

3.ช่วยลดความมันของใบหน้า

สำหรับสาวๆ คนไหนที่มีปัญหาใบหน้ามันทำให้ต้องพกกระดาษซับหน้ามันตลอดเวลา และหลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วเจลของว่านหางจระเข้นั้นสามารถช่วยยับยั้งความมันบนใบหน้าได้เป็นอย่างดี ด้วยวิธีการง่ายๆ คือหลังจากล้างหน้าด้วยน้ำสะอาดเรียบร้อยแล้วให้นำวุ้นของว่านหางจระเข้มาทาบนใบหน้าเช้าเย็นวันละ 2 ครั้ง ทำต่อเนื่องกันเป็นประจำ 1-2 เดือน จะช่วยลดความมันของใบหน้าและเพิ่มประสิทธิภาพที่เห็นผลได้อย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น รับรองว่าคุณจะต้องมีใบหน้าที่เนียนนุ่ม ชุ่มชื้นมากยิ่งขึ้นอย่างแน่นอน ที่สำคัญยังสามารถช่วยลดรอยแผลเป็นบนใบหน้าให้ดูจางลงได้อีกด้วย

4.ช่วยปรับสีผิวให้ดูสม่ำเสมอ

และหากคุณคือหนึ่งคนที่มีปัญหาเรื่องของสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอ ว่านหางจระเข้นั้น สามารถช่วยฟื้นฟูรอยด่างดำต่างๆ ให้ดูจางลงและช่วยปรับให้สีผิวมีความสมดุลกันมากยิ่งขึ้น เช่นเดียวกัน เพียงแค่นำวุ้นภายในว่านหางจระเข้มาล้างน้ำให้สะอาด ก่อนที่จะนำมาทาลงบนบริเวณรอยด่างดำนั้นๆ โดยทำเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง เพียงเท่านี้ก็จะช่วยให้ผิวที่หมองคล้ำหรือด่างดำกลับมาดูเนียนใสได้แล้ว

5.ฟื้นฟูผิวที่แห้งกร้าน

หากคุณเป็นคนที่มีปัญหาในเรื่องของผิวหน้าแห้งร้าน ลอกเป็นขุย หรือผิวแพ้ง่าย แต่ในระแวกบ้านของคุณไม่ได้ปลูกว่านหางจระเข้ไว้เลย ลองมองหาผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของว่านหางจระเข้เป็นส่วนประกอบ ก็สามารถใช้ทดแทนได้เช่นเดียวกัน เพียงแค่นำเจลของว่านหางจระเข้มาทาให้ทั่วบริเวณใบหน้าหรือบนบนผิวหนังที่แห้งกร้าน ทิ้งไว้ 15 นาที เสร็จแล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด ทำแบบนี้เป็นประจำจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวและทำให้ผิวดูกระชับเต่งตึงมากยิ่งขึ้น สามารถช่วยแก้ปัญหาเรื่องผิวที่แห้งกร้านได้เป็นอย่างดี

6.ป้องกันฝ้าและรักษาสิว

ประโยชน์ที่สำคัญของว่านหางจระเข้ ก็คือ ช่วยรักษาสิวและป้องกันฝ้าได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับใครที่มีปัญหาเรื่องของรูขุมขนกว้างและทำให้เกิดสิวอุดตัน จนเป็นที่มาของสิวอักเสบ ซึ่งเกิดจากการได้รับเชื้อโรคหรือแบคทีเรียต่างๆ เพียงนำเจลของว่านหางจระเข้มาแต้มลงบนจุดที่เกิดสิวจะสามารถช่วยบรรเทาอาการสิวอักเสบ และลดการเกิดแผลเป็นที่เกิดจากสิวอักเสบได้หรือสำหรับใครที่มีปัญหาหน้าเป็นฝ้า ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยใดๆ ก็ตามเพียงนำว่านหางจระเข้มามาส์กหน้าก่อนนอน ทิ้งไว้ 15 นาทีแล้วล้างออกจะสามารถช่วยลดปัญหาการเกิดฝ้าได้ชนิดที่เรียกว่าคุณคาดไม่ถึงเลยทีเดียว

7.ช่วยรักษาแผลที่เกิดจากผิวหนังถลอก

นอกจากว่านหางจรเข้จะสามารถช่วยรักษาแผลที่เกิดจากไฟไหม้หรือน้ำร้อนลวกได้แล้ว ว่านหางจระเข้ยังสามารถช่วยรักษาแผลที่เกิดจากผิวหนังถลอกได้ด้วยเช่นเดียวกัน เพียงนำเจลของว่านหางจระเข้มาทาในบริเวณที่เกิดรอยแผลนั้นจะช่วยลดการอักเสบและช่วยให้รอยแผลนั้นดูจางลงได้ อีกทั้งยังเป็นการช่วยให้รอยแผลสมานตัวได้เร็วยิ่งขึ้นอีกด้วย

ทั้งหมดนี้ก็คือ ประโยชน์ของว่านหางจรเข้ต่อความสวยความงามที่คุณอาจไม่เคยรู้มากก่อน ซึ่งนอกจากจะมีประโยชน์ต่อผิวพรรณแล้ว ยังสามารถช่วยรักษาแผล หรือบรรเทาอาการอักเสบ ตลอดจนสามารถช่วยฆ่าเชื้อโรคได้เป็นอย่างดีอีกด้วย