สะเดา มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Azadirachta indica A.Juss. เป็นพันธุ์ไม้ขนาดกลางถึงใหญ่ ความสูงของต้นประมาณ 20-25 เมตร มีรากหยั่งลึกแข็งแรง มีถิ่นกำเนิดที่พม่าและอินเดีย จากนั้นจึงแพร่กระจายอยู่ทั่วไป รวมไปถึงไทยด้วย เจริญงอกงามดีในเขตที่มีอากาศร้อนชื้น สามารถขึ้นได้ในสภาพที่มีความแห้งแล้ง เป็นพืชที่ทนแดด ใบอ่อนจะมีสีแดง เมื่อแก่จะเป็นสีเขียวหนาทึบ ออกดอกเป็นช่อๆ ดอกมีสีขาว ผลมีลักษณะกลมรีขนาดองุ่น โดยทั้งใบ ดอก และผลสามารถนำมารับประทานได้
ซึ่งมีสรรพคุณและประโยชน์มากมาย ดังนี้
- ขับสารพิษในร่างกาย
หากนำใบสะเดามาต้มกับน้ำร้อน แล้วจิบอย่างน้อยวันละครั้ง ก็จะช่วยทำให้ขับสารพิษออกจากกระแสเลือด ทำให้โลหิตหมุนเวียนได้ดีขึ้น
- รักษาโรคทางผิวหนัง
ในสะเดามีสารที่มีฤทธิ์ในการยับยั้งการเกิดเชื้อรา เชื้อไวรัส และแบคทีเรีย ทำให้ป้องกันการเกิดเชื้อราตามเล็บมือ เล็บเท้า ป้องกันกลาก เกลื้อน หิด เริม และยังสามารถรักษาแผลจากโรคสะเก็ดเงินได้อีกด้วย
- แก้ไขมาเลเรีย
ในใบและเมล็ดสะเดามีสารที่สามารถยับยั้งเชื้อฟัลชิปารัมได้ ซึ่งเป็นเชื้อของไข้มาเลเรีย โดยมียุงเป็นพาหะ และสามารถติดต่อจากคนสู่คนได้
- รักษาโรคไขข้อ
เราสามารถใช้บางส่วนของสะเดานำมารักษาโรคไขข้อได้ ซึ่งได้แก่ ขอบใบ เมล็ด และเปลือกต้น โดยนำมาสกัดเป็นน้ำมันใช้ทาภายนอก หรือจะนำมาต้มกับน้ำเพื่อดื่มก็ได้ สามารถช่วยลดอาการปวดข้อ ปวดกล้ามเนื้อ และลดอาการบวมในข้อได้
- ช่วยย่อยอาหาร
ใบสะเดามีคุณสมบัติช่วยกระตุ้นร่างกายให้ผลิตน้ำดี ซึ่งส่งผลให้กระเพาะอาหารทำงานได้ดียิ่งขึ้น โดยน้ำดีจะไปช่วยย่อยอาหารประเภทไขมันนั่นเอง
- ดีต่อสุขภาพปากและฟัน
สารสกัดเอทานอลจากใบสะเดาสามารถช่วยยับยั้งและกำจัดการเกิดแบคทีเรียในช่องปาก ซึ่งเป็นที่มาของปัญหาสุขภาพปากและฟัน ทั้งยังช่วยลดคราบหินปูนอีกด้วย
- รักษาโรคเบาหวาน
สะเดาสามารถช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยโรคเบาหวานได้ โดยหากจะรับประทานร่วมกับยารักษาโรคเบาหวาน อาจต้องมีการปรึกษาแพทย์ก่อน เพราะอาจทำให้ระดับน้ำตาลลดลงมากเกินไป จนเป็นอันตรายได้
- รักษาแผลในกระเพาะอาหาร
มีการศึกษาว่าสารละลายที่สกัดจากเปลือกสะเดา สามารถช่วยลดการหลั่งกรดในกระเพาะอาหารได้ และยังสามารถช่วยรักษาแผลในลำไส้เล็กส่วนต้นได้อีกด้วย
- ต้านมะเร็ง
ในสะเดามีสารนิมโบลิดี ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระชนิดหนึ่ง ที่มีฤทธิ์ช่วยต่อต้านและป้องกันมะเร็งได้
- บำรุงหัวใจ
หากนำผลของต้นสะเดามาต้ม และจิบอย่างน้อยวันละครั้ง จะทำให้ขยายหลอดเลือดตัว ทำให้การไหลเวียนของโลหิตและจังหวะการเต้นของหัวใจเป็นไปอย่างปกติ
ถึงแม้สะเดาจะมีรสขม แต่ก็มีประโยชน์มากมาย ซึ่งสามารถหารับประทานได้ง่าย และยังมีราคาไม่แพงอีกด้วย