เคล็ดลับวิธีดับกลิ่นตัว แถมยังช่วยให้มีกลิ่นหอมตลอดทั้งวัน

ความสวย ความงาม

สำหรับใครที่มีกลิ่นตัวแรงก็คงมีความกังวลอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสาวๆ นอกจากจะทำให้เกิดความไม่มั่นใจในการใช้ชีวิตประจำวันแล้วยังทำให้ภาพลักษณ์ดูไม่ดีอีกด้วย ยิ่งต้องออกไปพบเจอกับลูกค้าหรือการพบปะสังสรรค์ เนื่องในโอกาสงานสำคัญต่างๆ  ซึ่งสาเหตุของการมีกลิ่นตัวแรงก็มีด้วยกันหลากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นการรับประทานอาหารรสจัด การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกาย การสวมใส่เสื้อผ้าที่อับชื้นหรือต่อมเหงื่อในร่างกายที่ทำงานผิดปกติ และไม่ว่าจะด้วยสาเหตุใดก็ตามที่ทำให้คุณมีกลิ่นตัวที่รุนแรง วันนี้ทางเราก็ได้มีเคล็ดลับดีๆ ในการกำจัดกลิ่นตัวมาฝาก เชื่อว่าบทความนี้จะต้องเป็นประโยชน์โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคุณสาวๆ ที่มีปัญหาในเรื่องนี้อย่างแน่นอน จะมีเคล็ดลับอะไรที่น่าสนใจบ้างตามไปดูกันเลย

1.เลี่ยงการรับประทานอาหารรสจัด หรือมีกลิ่นแรง

การรับประทานอาหารต่างๆ ที่มีกลิ่นแรงหรืออาหารรสจัดเช่น อาหารรสเผ็ด กระเทียม สะตอ และอาหารอื่นๆ เนื่องจากอาหารประเภทนี้จะส่งผลให้มีกลิ่นตัวที่รุนแรงขึ้น โดยเฉพาะอาหารที่มีรสเผ็ดเพราะจะยิ่งเป็นการไปกระตุ้นให้ต่อมเหงื่อทำงานได้เร็วขึ้น ส่งผลให้มีเหงื่อไหลออกมาในปริมาณที่มาก จึงเป็นที่มาของการมีกลิ่นตัวแรงนั่นเองและคงไม่ต้องแปลกใจเลยว่าทำไมคนข้างๆ ถึงไม่อยากอยู่ใกล้คุณ

2.ใส่เสื้อผ้าที่ช่วยระบายเหงื่อ

คนที่มีปัญหากลิ่นตัวแรงการสวมใส่เสื้อผ้าเป็นปัจจัยหนึ่งที่สำคัญมากๆ โดยควรสวมใส่เสื้อผ้าที่สามารถช่วยระบายเหงื่อได้ดีหรือระบายอากาศ เพื่อลดการอับชื้น โดยเฉพาะชุดชั้นในและกางเกงใน ควรเลือกวัสดุที่เป็นธรรมชาติ เช่น ผ้าฝ้าย หรือเนื้อผ้าที่เบาสบายก็จะสามารถช่วยลดปัญหากลิ่นตัวได้ดีเลยทีเดียว

3.ชำระร่างกายให้สะอาด

การชำระร่างกายให้สะอาดเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอหรือการอาบน้ำอย่างน้อยวันละ 2 ครั้งคือเช้าและเย็น เพื่อชำระล้างเหงื่อและกำจัดคราบแบคทีเรียต่างๆ ที่เกาะติดอยู่บนผิวหนัง ในแต่ละวันเราต้องเจอกับมลภาวะต่างๆ มากมายทั้งฝุ่น ควันหรือแสงแดด ที่บางครั้งอาจก่อให้เกิดการสะสมของเชื้อโรค และแบคทีเรียต่างๆ จนส่งผลให้มีกลิ่นตัวแรงนั่นเอง

4.ใช้ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นเหงื่อใต้รักแร้

เราปฏิเสธไม่ได้เลยว่าสาเหตุที่ทำให้มีกลิ่นตัวที่แรง ส่วนใหญ่มักจะมาจากผิวหนังบริเวณใต้รักแร้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาพอากาศที่ร้อนจัด จนทำให้มีเหงื่อไหลออกมาในปริมาณมากบริเวณต่อมใต้รักแร้ ดังนั้น การใช้ผลิตภัณฑ์หรือโรลออนที่มีคุณสมบัติช่วยระงับกลิ่นกายใต้รักแร้เป็นการแก้ปัญหาที่ตรงจุดที่สุด โดยควรเลือกโรลออนที่ช่วยในการควบคุมเหงื่อและลดขนาดรูขุมขนบริเวณใต้วงแขน เพื่อทำให้ต่อมเหงื่อแคบลงและไม่ให้มีเหงื่อไหลออกมา วิธีนี้จะช่วยให้ใต้วงแขนของคุณสาวๆ ขาวขึ้น อีกทั้งยังช่วยในการลดกลิ่นเหงื่อได้เป็นอย่างดี

5.สารส้มช่วยได้

สารส้ม ของดีจากธรรมชาติที่ไม่เป็นอันตรายต่อผิวตัว ช่วยในการระงับกลิ่นกายใต้วงแขนที่เรียกได้ว่ามีต้นทุนที่ถูกที่สุด แถมยังใช้ได้ผลดี ซึ่งเป็นวิธีที่ใช้มาตั้งแต่สมัยโบราณตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายาย แต่ในสมัยนี้มีผลิตภัณฑ์จากสารส้มมากมายหลายชนิดให้เลือกมีทั้งแบบแท่ง แบบผง แบบสเปรย์ หรือแบบน้ำ เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นควรใช้สารส้มหลังจากอาบน้ำเสร็จทันทีด้วยการทาหรือฉีดที่บริเวณใต้รักแร้ ข้อพับ หรือขาหนีบต่างๆ โดยวิธีนี้จะเหมาะอย่างยิ่งกับคนที่แพ้โรลออน แพ้น้ำหอม หรือแพ้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวต่างๆ

6.ทำความสะอาดถุงเท้าและรองเท้า

ถุงเท้าหรือรองเท้าก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้มีกลิ่นตัวที่รุนแรง โดยเฉพาะการสวมใส่ถุงเท้าหรือรองเท้าที่มีความอับชื้น ปัญหานี้มักจะเกิดขึ้นกับคนที่ต้องเล่นกีฬาเป็นประจำ ดังนั้น ควรทำความสะอาดถุงเท้าและรองเท้าเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอหรือในระหว่างวันควรเปลี่ยนถุงเท้าอย่างน้อย 2 ครั้งต่อวัน เพื่อลดคราบสะสมของเหงื่อบนเท้าหรือควรเลือกรองเท้าที่สามารถระบายอากาศได้ดีเป็นรองเท้าที่ทำมาจากวัตถุดิบสังเคราะห์ที่ช่วยดูดซับความชื้น วิธีนี้จะสามารถลดกลิ่นที่เหม็นรุนแรงจากบริเวณเท้าได้เป็นอย่างดี

7.กําจัดขนรักแร้

โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสาวๆ ที่มีปัญหาเรื่องกลิ่นตัวแรง หรือวัยรุ่นที่มีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนจะทำให้มีเหลือออกบริเวณใต้วงแขนมากกว่าปกติ ดังนั้น วิธีที่จะสามารถช่วยลดกลิ่นตัวลงได้ก็คือ การกำจัดขนรักแร้เพื่อลดการสะสมของเชื้อแบคทีเรียหรือคราบเหงื่อที่อาจหมักหมมหรือแอบแฝงอยู่ในบริเวณขนรักแร้ ข้อควรแนะนำคือ ต้องกำจัดขนรักแร้ด้วยวิธีการแว๊กซ์ หลีกเลี่ยงการถอนหรือห้ามโกนเด็ดขาด สำหรับการถอนอาจทำให้รักแร้ไม่เรียบเนียนเป็นผิวขรุขระหรือที่เรียกว่าหนังไก่ สำหรับวิธีการโกนก็อาจจะโกนได้แต่ไม่ควรเกินบ่อยเกินไปเพราะจะยิ่งไปกระตุ้นให้ขนรักแร้ยาวเร็วขึ้นกว่าเดิม ที่สำคัญยังอาจทำให้มีเส้นขนที่แข็งและหนายิ่งขึ้นอีกด้วย

เป็นอย่างไรกันบ้าง เชื่อว่าเคล็ดลับดีๆ เหล่านี้จะสามารถช่วยลดปัญหาการมีกลิ่นตัวที่รุนแรง และทำให้คุณมีกลิ่นตัวที่หอมมากยิ่งขึ้น ช่วยทำให้มั่นใจในการใช้ชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว ยังไงอย่าลืมเอาคำแนะนำต่างๆ เหล่านี้ไปทดลองใช้ดูรับรองว่ามันจะต้องได้ผลดีเกินคาดอย่างแน่นอน