เชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 อยู่ในตระกูลเดียวกับโรคซาร์ส (SARS) ที่เคยแพร่ระบาดอย่างหนักและคร่าชีวิตผู้คนไปมากในปี ค.ศ. 2002-2003 โดยไวรัสโคโรน่าเกิดจากการพัฒนาของเชื้อไวรัสค้างคาวที่กลายพันธุ์ โดยมีงูเห่าเป็นตัวกักเก็บและแพร่เชื้อมาสู่คน ซึ่งมีต้นตอของเชื้อมาจากตลาดขายส่งอาหารทะเลฮั่วนาน เมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป้ย ประเทศจีน โดยตลาดแห่งนี้นอกจากจะค้าขายอาหารทะเลแล้วยังขายเนื้อสัตว์แปลกๆ และอาหารที่มีชีวิตอีกด้วย เช่น อูฐ สุนัข สุนัขจิ้งจอก งู จระเข้ กวาง จิงโจ้ โคอาล่า นาก นกยูง เป็นต้น โดยผู้ติดเชื้อกลุ่มแรกคือคนงานและลูกค้าของตลาดแห่งนี้ ซึ่งทำให้เกิดโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจที่สามารถติดต่อจากคนสู่คนได้
อาการเป็นอย่างไร
อาการจะแสดงออกมาภายใน 1-2 สัปดาห์ ซึ่งมีลักษณะคล้ายไข้หวัดธรรมดา คือ น้ำมูกไหล ไอ จาม เจ็บคอ หายใจเหนื่อยหอบ มีไข้สูง ปวดศีรษะ และปวดเมื่อยตามร่างกาย
มีโอกาสที่ไวรัสจะพัฒนาหรือไม่
มีโอกาสที่ไวรัสโคโรน่าจะพัฒนาต่อ โดยหากพัฒนาต่อก็อาจจะทวีความรุนแรงขึ้น เนื่องจากเชื้อไวรัสที่อยู่ในร่างกายมนุษย์จะมีการปรับตัวเพื่อความอยู่รอด ทำให้สายพันธุ์แข็งแกร่งขึ้น หรือในอีกแง่มุมหนึ่งก็คืออาจจะพัฒนาให้อยู่ร่วมกับมนุษย์ได้และไม่เป็นอันตราย เพราะหากมนุษย์ตาย เชื้อก็ต้องตายตามไปด้วยเช่นกัน
มียารักษาหรือไม่
โดยทั่วไปการติดเชื้อไวรัสจะได้รับการรักษาตามอาการ เพื่อให้ร่างกายปรับตัวและสร้างภูมิขึ้นกันขึ้นมาเองได้ แม้ว่าจะไม่มียาเฉพาะที่สามารถรักษาให้หายได้โดยตรง แต่โรคนี้ก็มีคนที่ติดเชื้อแล้วสามารถหายป่วยได้เช่นกัน
วิธีป้องกัน
- สวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งที่อยู่ในเขตชุมชนหนาแน่น
- ล้างมือให้สะอาดก่อนสัมผัสใบหน้าหรือรับประทานอาหาร และอย่าลืมใช้ช้อนกลางด้วย
- งดรับประทานเนื้อสัตว์ดิบ และหลีกเลี่ยงการสัมผัสสัตว์ที่ป่วยหรือตาย
- ไม่ใช้ของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น เช่น แปรงสีฟัน ผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดตัว
- ดูแลสุขภาพร่างกายให้ดี รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายและพักผ่อนให้เพียงพอ
- อยู่ให้ห่างจากผู้ที่มีอาการผิดปกติเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ หรือเป็นหวัด
- หลีกเลี่ยงไปยังสถานที่ที่มีคนหนาแน่น เช่น ตลาด ห้างสรรพสินค้า สนามบิน เป็นต้น
- หากจะมีแผนการเดินทางไปยังประเทศจีน ให้เลื่อนการเดินทางออกไปก่อน
- หากกลับมาจากพื้นที่เสี่ยงภัยแล้วเกิดอาการ ให้พบแพทย์เพื่อเข้ารับการตรวจร่างกายทันที
ถึงแม้ไวรัสโคโรน่าจะน่ากลัว แต่ก็ใช่ว่าเราจะไม่มีวิธีป้องกันตัวเองเลย ทุกคนควรหมั่นสังเกตตัวเองและใส่ใจดูแลสุขภาพเสมอ รวมถึงคนในครอบครัวและคนใกล้ชิดด้วย เพราะหากเราเกิดติดเชื้อไวรัสนี้ขึ้นมาจริงๆ การไปหาหมอที่เร็วกว่า ก็จะได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที และมีโอกาสหายได้มากกว่านั่นเอง