วิธีอดอาหารแบบ Intermittent Fasting (IF) ได้ผ่านการพิสูจน์ผลทางการแพทย์มาแล้วว่าดีทั้งต่อการลดน้ำหนักตัวและดีต่อสุขภาพองค์รวมด้วย นั่นคือ IF ช่วยให้คุณลดความอ้วนได้จริงพร้อมทั้งป้องกันเสี่ยงจากโรคร้ายแรงต่างๆ เช่น โรคเบาหวานประเภทที่ 2 โรคหัวใจ โรคมะเร็ง โรคอัลไซเมอร์ โรคสมองเสื่อม และอาการแก่ก่อนวัย
หลักการเบื้องต้นของ Intermittent Fasting (IF) คือ เมื่ออดอาหารเซลล์ต่างๆ จะเริ่มกระบวนการซ่อมแซมตัวเอง(หรือ Autophagy) หรือทำลายเซลล์ที่อ่อนแอ โปรตีนเก่า แบคทีเรียไม่ดี และโมเลกุลผิดปกติแล้วขจัดออกไป เมื่อถึงช่วงกินอาหารได้ คุณได้เน้นกินแต่อาหารเพื่อสุขภาพ พร้อมออกกำลังายอย่างสม่ำเสมอ คุณก็จะได้ประโยชน์จาก IF เพิ่มมากกว่าเดิมถึงสองเท่า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความสมดุลของน้ำหนักตัว สมรรถภาพที่ดีขึ้น หน้าตาผิวพรรณแลดูอ่อนวัย และมีความจำดีขึ้น
หลักการพื้นฐานของ IF นั่นคือเมื่อคุณอดอาหารร่างกายเพราะต้องการทำลายเซลล์เก่า สารอารหารเก่า โมเลกุลไม่ดีออกไป เมื่อได้รับอาหารร่างกายจะทำการฟื้นฟูและสร้างเซลล์ใหม่ๆ คืนกลับมาอีกครั้ง
สรุปสั้นได้ว่า อดเพื่อทำลายและกินเพื่อสร้างสิ่งใหม่ๆ
ในการลงมือปฏิบัติ IF ก็ไม่ได้ซับซ้อนหรือเป็นเรื่องที่ยุ่งยากอะไรๆ เลย นอกจากนั้นเรายังมีแอปพลิเคชั่นมือถือดีๆ อีกมากมาย เช่น แอป FastHabit , แอป LIFE Fasting Tracker ,แอป Zero , แอป Window และแอป YouAte Food & Health Diary ที่ทำให้คุณดูแลสุขภาพและน้ำหนักตัวแบบ IF ได้ง่ายมากขึ้น ประหยัดเวลา ยืดหยุ่น สนุกและเพลินเพลินไปกับวิถีชีวิตแบบนี้
การลดน้ำหนักแบบ Intermittent Fasting มีอยู่หลายแบบหลายสูตรมากมักขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ เพศ วัย ยีนส์ หรือน้ำหนักตัว แต่มีอยู่ 3 สูตรที่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางไปทั่วโลก
1. สูตร 16/8
นี่คือสูตร Intermittent Fasting (IF) ยอดนิยมมากที่สุด คือ ให้งดอาหาร 16 ชั่วโมงต่อวัน และกินอาหารภายใน 8 ชั่วโมงที่เหลือต่อวัน สูตร IF นี้ลดน้ำหนักได้ดีและเป็นวิธีที่ง่ายที่สุด นอกจากนั้นแล้วการอดอาหาร IF สูตรนี้ค่อยข้างเหมาะสมมากสำหรับคนที่ชื่นชอบการออกกำลังกายหนักๆ หรือฟิตกล้ามเนื้อทุกวัน เพราะคุณสามารถกินคาร์โบไฮเดรตและโปรตีนได้มากกว่ามื้ออาหารปกติ การมีแอปพลิเคชั่นทางด้าน Intermittent Fasting ไว้บนมือถือ เช่นแอป FastHabit , แอป LIFE Fasting Tracker ,แอป Zero , แอป Window และแอป YouAte Food & Health Diary ก็จะทำให้คุณกินอาหารและอดอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ลดน้ำหนักได้เร็วพร้อมด้วยสุขภาพองค์รวมดีขึ้น
2. สูตร Warrior Diet
การลดน้ำหนักแบบ Intermittent Fasting (IF) สูตร Warrior Diet เป็นการอดอาหาร 20 ชั่วโมง และช่วงเวลาที่กินอาหารได้อีก 4 ชั่วโมงต่อวัน โดยปกตินิยมกินอาหารแค่มื้อเดียวเท่านั้น สูตร IF นี้ให้อัตราการเผาผลาญไขมันสะสมดีที่สุด ดังนั้น เมื่อคุณฝึกสูตร IF นี้จนเชี่ยวชาญแล้วละก็ไขมันสะสมจะหายไปอย่างรวดเร็วมากเกินกว่าที่คุณคิด หากอยากให้ชีวิตแบบ IF ง่ายมากขึ้นก็ต้องมีแอป FastHabit , แอป LIFE Fasting Tracker ,แอป Zero , แอป Window และแอป YouAte Food & Health Diary ไว้บนมือถือของคุณด้วย เพื่อให้ไลฟ์สไตล์แบบ Intermittent Fasting มีประสิทธิภาพสูงสุด ทั้งลดน้ำหนักได้เร็วและสุขภาพองค์รวมแข็งแรง
3. สูตร Eat Stop Eat
สูตร Intermittent Fasting (IF) นี้ได้รับความยมกันอย่างกว้างขวางตามหนัง Eat Stop Eat ของคุณ Brad Pilon เป็นแนวคิดที่ง่ายๆ แต่พอลงมือทำจริงกลับพบว่ามันยุ่งยากมาก ยิ่งถ้าหากคุณไม่มีแอป IF ไว้บนมือถือเลย อย่างเช่น แอป FastHabit , แอป LIFE Fasting Tracker ,แอป Zero หรือ แอป Window จะทำให้แนวทางชีวิตแบบนี้กลายเป็นเรื่องน่าเบื่อและเสียเวลามากเลย
สูตร Eat Stop Eat จะเน้นให้อดอาหาร 24 ชั่วโมง(ตลอดวัน) ให้ได้จำนวน 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ นั่นคือใน 7 วัน (หรือ 1 สัปดาห์) คุณจะต้องอดอาหารตลอดทั้งวันประมาณ 1- 2 วันต่อสัปดาห์ เลือกงดอาหารวันไหนก็ได้แล้วแต่ความสะดวกของคนนั้นๆ โดยปกติแล้วมักจะอดอาหารในวันหยุดเสาร์และอาทิตย์เพราะร่างกายไม่ได้ต้องการพลังงานมากนัก อย่างไรก็ตามวันที่คุณอาหารคุณสามารถกินอาหารที่มีแคลอรี่ต่ำๆ ได้บ้าง ส่วน 5 วันที่เหลือคุณสามารกินอาหารได้ตามปกติ สูตรนี้จึงไม่ค่อยเหมาะกับเด็ก คนชรา หรือคนมีโรคประจำตัว
สรุป
ทั้ง 3 สูตรลดน้ำหนักแบบ Intermittent Fasting (IF) นี้ได้รับความนิยมมากที่สุดจากคนทั่วโลก แต่ยังมีสูตร IF ดีๆ อีกหลายสูตร ซึ่งคุณสามารถค้นหาศึกษาเพิ่มเติมได้ทางออนไลน์ การเลือกใช้แอปพลิเคชั่นบนมือถือที่เกี่ยวข้องกับ IF มีความสำคัญอย่างยิ่งกับไลฟ์สไตล์แบบนี้ เพราะมันช่วยเตือน แนะนำเคล็ดลับ หรือเลือกเมนูอาหารสุขภาพให้กับคุณได้ เราค้นพบว่า 5 แอป IF นี้ดีที่สุด มีแอป FastHabit , แอป LIFE Fasting Tracker ,แอป Zero , แอป Window และแอป YouAte Food & Health Diary นอกจากนั้นแล้วควรมีแอปใช้คำนวณแคลอรี่ แอปใช้ค้นหาสูตรอาหารสุขภาพติดไว้บนหน้าจอด้วย สำหรับวัดแคลอรี่และคุณค่าอาหารแต่ละชนิดที่คุณกินเข้าไป หรือหากคุณต้องการปรับเปลี่ยนสูตร IF ใหม่ๆ ให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของตัวเองโดยไม่ต้องมานั่งจดมานั่งจำให้เสียเวลาและเปลื้องสมอง
ปกติแล้วการทำ Intermittent Fasting จะเห็นผลลัพธ์ทั้งทางด้านน้ำหนักตัวและสุขภาพที่ดีขึ้นภายใน 2-3 สัปดาห์ นับตั้งแต่วันที่เริ่มทำซึ่งอาจมีผลกระทบข้างเคียงบ้าง เช่น หงุดหงิด อารมณ์เสีย วิตกกังวลบ่อย ตัวสั่น ใจสั่น ซึ่งเป็นอาการปกติสำหรับการเริ่มต้น IF แต่หลังจาก 3 สัปดาห์(21 วัน)แล้วร่างกายของคุณจะปรับตัวได้เอง หากใครมีสุขภาพอ่อนแอหรือมีโรคประจำตัวอยู่ก็ควรไปพบหรือปรึกษาแพทย์ก่อนจะลงมือปฏิบัติจริง
