กล้วยน้ำว้า มีชื่อภาษาอังกฤษว่า Banana และมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Musa ABB cv. Kluai ‘Namwa’ เป็นไม้ล้มลุก สูงประมาณ 3.5 เมตร ลำต้นจริงอยู่ใต้ดิน แต่มีลำต้นเทียมคือกาบกล้วยที่เรียงซ้อนกันขึ้นมา ใบเป็นใบเดี่ยวมีขนาดใหญ่ หรือที่เรียกว่าใบตอง ดอกกล้วยก็คือหัวปลี ส่วนผลก็คือกล้วยน้ำว้านั่นเอง
ซึ่งมีสรรพคุณและประโยชน์มากมายดังต่อไปนี้
- รักษาโรคกระเพาะอาหาร
ในกล้วยน้ำว้าดิบมีสารแทนนิน ซึ่งมีฤทธิ์ช่วยสมานแผลในกระเพาะอาหาร และยังช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย นอกจากนั้นยังมีสารเซโรโทนินที่ช่วยกระตุ้นให้กระเพาะอาหารผลิตเยื่อเมือกมาเคลือบกระเพาะมากขึ้น จึงช่วยรักษาและบรรเทาโรคกระเพาะอาหารได้ดี
- ช่วยรักษาโรคซึมเศร้า
ในกล้วยน้ำว้าสุกมีสารทริปโตเฟน ที่ช่วยกระตุ้นการสร้างสารเซโรโทนิน ซึ่งเป็นสารแห่งความสุขชนิดหนึ่ง ที่ช่วยให้รู้สึกสงบและผ่อนคลาย จึงช่วยรักษาโรคซึมเศร้าได้ นอกจากนั้นยังทำให้นอนหลับสบายง่ายขึ้นอีกด้วย
- บรรเทาอาการท้องผูก
เนื่องจากกล้วยน้ำว้าสุกมีเส้นใยอาหารหรือไฟเบอร์สูง ที่สามารถละลายน้ำได้ดี ซึ่งจะไปเพิ่มมวลอุจจาระให้มากขึ้นและทำให้นิ่ม ส่งผลต่อการกระตุ้นระบบขับถ่าย ช่วยให้ขับถ่ายสะดวก ไม่ท้องผูก และยังช่วยป้องกันโรคริดสีดวงทวารอีกด้วย
- แก้ท้องเสีย ท้องร่วง
ในกล้วยน้ำว้าดิบมีสารแทนนิน ซึ่งมีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย จึงช่วยแก้ปัญหาท้องเสียและท้องร่วงได้ โดยให้ฝานกล้วยน้ำว้าดิบเป็นแผ่นบาง ๆ แล้วนำไปตากแดดให้แห้ง จากนั้นบดให้ละเอียด และนำไปชงดื่มกับน้ำร้อนในปริมาณ 10 กรัมต่อน้ำ 1 แก้ว ก็จะช่วยบรรเทาอาการให้ทุเลาลงไปได้
- ลดความดันโลหิต
ในกล้วยน้ำว้ายังมีโพแทสเซียม ที่มีคุณสมบัติช่วยในการควบคุมความดันโลหิตให้อยู่ในภาวะปกติ การรับประทานกล้วยน้ำว้าจึงดีต่อผู้ที่ป่วยเป็นโรคความดันโลหิตสูง
- ป้องกันโรคโลหิตจาง
กล้วยน้ำว้ายังมีธาตุเหล็กที่จำเป็นต่อการสร้างเม็ดเลือดแดงและฮีโมโกลบินในร่างกาย การรับประทานกล้วยน้ำว้าจึงเป็นการป้องกันโรคโลหิตจางและบำรุงเลือดไปในตัว
- บำรุงกระดูกและฟัน
กล้วยน้ำว้าห่ามที่ยังไม่สุกดีแล้วนำมาผ่านความร้อนนั้น จะด้วยการปิ้ง ย่าง หรือต้ม ก็ตามแต่ จะมีคุณสมบัติช่วยให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมได้ดีกว่าเดิม 4-5 เท่า กล้วยน้ำว้าจึงเป็นตัวช่วยในการเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง
แม้ว่ากล้วยน้ำว้าจะมีประโยชน์มาก แต่หากรับประทานในปริมาณที่เกินพอดี ก็สามารถส่งผลเสียให้แก่ร่างกายได้เช่นกัน โดยหากรับประทานกล้วยน้ำว้าดิบมากเกินไป อาจจะทำให้เกิดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อได้ และหากรับประทานกล้วยน้ำว้าสุกมากเกินไป ก็อาจจะทำให้ท้องเสียได้เช่นกัน เนื่องจากมีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อน ๆ นั่นเอง