ผิวไหม้แดด มีวิธีการฟื้นฟูอย่างไร

ความสวย ความงาม

ในแต่ละวันสาวๆ ต้องเจอกับมลภาวะทางอากาศมากมาย ไม่ว่าจะเป็นฝุ่น ควัน โดยเฉพาะมลภาวะจากแสงแดด ซึ่งเต็มไปด้วยรังสี UV ที่คอยทำร้ายผิวให้แห้งเสียและเกิดริ้วรอยต่างๆ แต่ดูเหมือนกับว่าปัญหาที่ใหญ่โตที่สุดสำหรับสาวๆ ก็คือ ปัญหาผิวไหม้แดด นั่นเอง เมื่อต้องเจอกับแสงแดดที่ร้อนจัด โดยเฉพาะสภาพอากาศในประเทศไทยของเรา แม้จะทาครีมกันแดดป้องกันหนาๆ แต่ก็ยังเกิดปัญหาผิวไหม้แดดอยู่ดี ดังนั้น สำหรับสาวๆ คนไหนที่กำลังกลุ้มอกกลุ้มใจกับปัญหาเหล่านี้ วันนี้เราก็มีเคล็ดลับในการรักษาพร้อมฟื้นฟูผิวไหม้แดดให้กลับมาขาวกระจ่างใสได้อีกครั้ง จะมีเคล็ดลับไหนที่น่าสนใจบ้าง ตามไปดูกันเลย

-รักษาผิวไหม้แดดด้วยว่านหางจระเข้

ว่านหางจระเข้เป็นพืชสมุนไพรที่คนไทยนิยมใช้กันมาตั้งแต่อดีต จนถึงปัจจุบัน เพราะเชื่อกันว่ามีคุณสมบัติในการรักษาผิวที่เกิดจากไฟไหม้ น้ำร้อนลวก รวมถึงผิวไหม้แดด นอกจากนั้นยังสามารถรักษาโรคผิวต่างๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นโรคผิวหนังอักเสบผิวหนังแห้ง ผิวลอก หรือโรคสะเก็ดเงินก็ตาม สาเหตุก็เพราะว่านหางจระเข้จะมีกรดชนิดหนึ่งที่ชื่อว่า ซาลิซิลิก กรดชนิดนี้จะเป็นตัวช่วยยับยั้งแบคทีเรียและช่วยผลัดเซลล์ผิวหนังใหม่ อีกทั้งยังมีสารที่ช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะทางแสงแดด สิ่งที่สาวๆ ต้องทำคือ การนำเจลของว่านหางจระเข้มาทาในบริเวณที่เกิดรอยแผลไหม้ เพื่อลดอาการอักเสบ และช่วยให้เนื้อเยื่อของแผลเกิดความชุ่มชื้นมากยิ่งขึ้น อาจใช้ประโยชน์จากว่านหางจระเข้ที่เป็นต้นสดๆ หรือใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของเจลว่านหางจระเข้ก็สามารถช่วยปกป้องผิวและบรรเทาอาการแสบร้อนที่เกิดจากผิวไหม้แดดได้เช่นเดียวกัน

-รักษาผิวไหม้แดดด้วยการนอนแช่ในน้ำอุ่น

หากสาวๆ ต้องเจอกับมลภาวะทางแสงแดดหรือรังสียูวีที่คอยทำร้ายผิวให้เกิดรอยไหม้ การอาบน้ำอุ่นๆ หรือนอนแช่ด้วยน้ำอุ่นจะช่วยบรรเทาอาการผิวไหม้แดดและช่วยลดอาการแสบร้อนของผิวได้ อย่างไรก็ตามการนอนแช่ในน้ำอุ่น ไม่ควรแช่นานเกิน 30 นาที ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดภาวะผิวแห้งได้ง่ายขึ้น หลังจากอาบน้ำเสร็จแล้วควรเช็ดตัวเบาๆ ให้แห้ง และทาด้วยมอยเจอร์ไรเซอร์ ซึ่งเป็นสารเคลือบผิวจะช่วยป้องกันไม่ให้ผิวแห้งกร้านและช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว แต่หากพบว่าอาการผิวไหม้แดดยังไม่ดีขึ้นให้แก้ไขปัญหาด้วยการประคบเย็นแทน ซึ่งจะสามารถช่วยลดอาการแสบร้อนได้เป็นอย่างดี

-รักษาผิวไหม้แดดด้วยการนอนแช่ตัวในน้ำที่ผสมสารบำรุงผิว

อีกหนึ่งเคล็ดลับในการช่วยฟื้นฟูผิวไหม้แดด และลดอาการแสบร้อนของผิวไหม้แดดลงได้ก็คือ การนอนแช่ตัวในอ่างอาบน้ำ ด้วยสูตรเด็ดที่เรานะแนะนำ เพียงสาๆ ผสมข้าวโอ๊ต 1 ถ้วย ตามด้วยเบคกิ้งโซดา 3 ช้อนโต๊ะ ลงไปในน้ำก่อนลงไปนอนแช่ โดยให้นอนแช่ประมาณ 15-20 นาที เมื่อขึ้นจากน้ำ ควรซับผิวให้แห้งเบาๆ ด้วยผ้าขนหนูที่สะอาด หรือจะใช้น้ำส้มสายชูผสมลงไปในน้ำเพื่อนอนแช่ก็ได้ เพราะมีงานวิจัยบ่งบอกว่า น้ำส้มสายชู สามารถช่วยลดอาการแสบร้อนที่เกิดจากผิวไหม้แดดได้เช่นเดียวกัน แต่สำหรับผู้ที่มีบาดแผลตามร่างกาย ข้อควรระวังคือ ไม่ควรนอนแช่ด้วยน้ำส้มสายชู เนื่องจากในน้ำส้มสายชูนั้นจะมีฤทธิ์เป็นกรดอาจทำให้เกิดอาการแสบร้อนตามมาได้

-รักษาผิวไหม้แดดด้วยการดื่มน้ำให้เยอะๆ

ผิวจะไหม้แดดได้ง่ายหากขาดความชุ่มชื้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับสาวๆ คนไหนที่มีปัญหาผิวแห้งกร้านหรือลอกเป็นขุยได้ง่าย การดื่มน้ำจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและช่วยซ่อมแซมเซลล์ต่างๆ ของร่างกายในแต่ละวันมนุษย์ควรดื่มน้ำวันละ 8 แก้ว เพื่อช่วยให้ร่างกายเกิดความสมดุลและช่วยฟื้นฟูสภาพผิวให้นุ่มชุ่มชื้นมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม ควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มบางประเภท เช่น เครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์หรือคาเฟอีนไม่ว่าจะเป็น โซดา กาแฟ เพราะเครื่องดื่มเหล่านี้ อาจทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำและส่งผลเสียต่อระบบการทำงานของอวัยวะต่างๆ แน่นอนว่าไม่ใช่เรื่องที่ดีต่อสุขภาพของเราอย่างยิ่ง

-ไม่ควรเจาะตุ่มน้ำบนผิวหนัง

ในกรณีนี้ อาจเกิดขึ้นได้กับเฉพาะบางคน คือ เมื่อเกิดผิวไหม้แดดแล้ว สิ่งที่ตามมาจะเป็นตุ่มน้ำใสๆ ที่เกิดขึ้นบนผิวหนัง ซึ่งตุ่มน้ำที่ว่านี้ทำหน้าที่ปกป้องผิวหนังไม่ให้เกิดการระคายเคือง โดยเป็นไปตามกลไกการทำงานของร่างกาย และตุ่มน้ำจะแตกออกเองตามธรรมชาติ หากสาวๆ พบว่ามีตุ่มน้ำเกิดขึ้นบนผิวหนังหลังจากที่เกิดภาวะผิวไหม้แดด สิ่งที่ไม่ควรทำคือ การเจาะตุ่มน้ำให้แตกออก เพราะจะทำให้เกิดแผลที่แสบร้อนมากยิ่งไปกว่าเดิม อย่างไรก็ตามหากพบว่าตุ่มน้ำเกิดขึ้นเป็นเวลานาน ไม่หายไปเองตามธรรมชาติ หรือมีอาการปวดแสบปวดร้อนผิดปกติ ควรรีบไปพบแพทย์ผิวหนังทันที เพื่อหาวิธีรักษาต่อไปเพราะไม่แน่ว่าคุณอาจกำลังเสี่ยงที่จะเป็นโรคมะเร็งผิวหนังก็เป็นได้

ทั้งหมดนี้ ก็คือ วิธีการฟื้นฟูรักษาผิวไหม้แดด โดยเคล็ดลับต่างๆ ที่เราเอามาแนะนำในวันนี้ ทางเราก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะมีประโยชน์ต่อสาวๆ ทุกคน ที่กำลังเจอกับปัญหาผิวไหม้แดดอยู่ในขณะนี้ เพื่อใช้ในการดูแลผิวให้กลับมาขาวกระจ่างใสได้เหมือนเดิม และยังช่วยลดอาการแสบร้อนที่เกิดจากผิวไหม้แดดได้อีกด้วย