รักแร้ คือผิวหนังใต้วงแขนที่เราทุกคนควรต้องให้ความสำคัญและดูแลเอาใจใส่เป็นพิเศษ นอกจากเพื่อความสวยงามแล้ว รู้หรือไม่บริเวณรักแร้มีเส้นเลือด รูขุมขน และต่อมเหงื่ออยู่ใต้ผิวหนังมากมาย อีกทั้งยังเป็นที่กักเก็บความร้อน หากดูแลไม่ดีอาจมีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะอับชื้น การติดเชื้อแบคทีเรีย จนอาจก่อให้เกิดปัญหาด้านสุขภาพตามมาได้
วิธีดูแลสุขภาพของรักแร้
– ควรอาบน้ำและถูสบู่ให้สะอาดเป็นประจำทุกวัน หลังจากอาบน้ำเสร็จควรเช็ดผิวหนังบริเวณรักแร้ให้แห้งอยู่เสมอ เพื่อลดความอับชื้น และการสะสมของเชื้อโรค หรือเชื้อแบคทีเรียไม่ให้เข้าสู่ร่างกายได้ง่ายขึ้น
– เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายที่เหมาะสมต่อร่างกาย ใช้ทั้งกลางวันและกลางคืน โดยผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารลดเหงื่อที่แนะนำ คือ จำพวกอะลูมิเนียมคลอไรด์ เพราะจะช่วยให้การระงับเหงื่อมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
– ควรสวมใส่เสื้อผ้าที่ผลิตจากใยธรรมชาติ หลีกเลี่ยงเสื้อผ้าที่ผลิตจากใยสังเคราะห์ โดยเฉพาะคนที่มีกลิ่นตัวแรงอยู่แล้ว ซึ่งเสื้อผ้าที่ผลิตจากจากใยธรรมชาติ จะช่วยระบายเหงื่อได้ดีกว่าใยสังเคราะห์ เพื่อลดการอับชื้น การสะสมของเชื้อแบคทีเรีย หรือลดกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์จากใต้วงแขน
– หลีกเลี่ยงการบริโภคเครื่องดื่มต่างๆ ที่ร้อน อย่างเช่น ชาและกาแฟ รวมทั้งแอลกอฮอล์และอาหารที่มีรสจัด โดยเฉพาะรสเผ็ด และเค็ม เพราะอาจจะไปช่วยกระตุ้นให้เกิดการหลั่งของเหงื่อ ให้ไหลออกมามากยิ่งขึ้น
– ฝึกสมาธิให้ร่างกายและจิตใจผ่อนคลาย เช่น การนั่งสมาธิ หรือการเล่นโยคะเพื่อฝึกจิต จะช่วยได้ดี รวมถึงช่วยลดความเครียดได้อีกด้วย
– ควบคุมน้ำหนักตัวไม่ให้เกินเกณฑ์กว่าค่ามาตราฐาน
หากรูขุมขนที่บริเวณรักแร้เกิดการอักเสบ ซึ่งอาจเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย แม้จะเป็นภาวะที่ไม่รุนแรงและสามารถหายไปได้เองโดยธรรมชาติหรือไม่ต้องรักษา ก็ควรดูแลสุขภาพด้วยการล้างทำความสะอาดรักแร้ ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยกำจัดเชื้อแบคทีเรีย อย่างน้อย 2 ครั้ง/วัน ลังจากนั้นใช้ผ้าเช็ดตัว เช็ดรักแร้ให้แห้งก่อนสวมใส่เสื้อผ้าเสมอ หากอาการไม่ดีขึ้นก็ควรต้องไปพบแพทย์ ทันที ไม่ควรปล่อยไว้นาน เพราะไม่แน่ว่าอาจทำให้มีโรคอื่นๆ แทรกซ้อนมาด้วยก็ป็นได้
สำหรับแนวทางการป้องกันการเกิดรูขุมขนอักเสบบริเวณรักแร้ คือ ควรหลีกเลี่ยงการสวมใส่เสื้อผ้ารัดรูปหรือเนื้อผ้าที่ทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิว และไม่ควรสวมเสื้อผ้าจากใยสังเคราะห์ เพราะจะให้การระบายอากาศเป็นไปได้ยากขึ้น นั่นเอง
นอกจากรูขุมขนบริเวณรักแร้จะเกิดการอักเสบได้แล้วนั้น ยังอาจก่อให้เกิด ติ่งเนื้อใต้รักแร้ ได้อีกด้วย โดยเป็นติ่งนี้ จะมีลักษณะเป็นก้อนเนื้อเยื่อเล็ก ๆ ที่เกิดขึ้นที่บริเวณรักแร้ ซึ่งอาจไม่เป็นอันตรายมาก แต่อาจเกิดการระคายเคืองหากติ่งเนื้อนั้นไปสัมผัสหรือเสียดสีกับเสื้อผ้า หรือเครื่องประดับที่เราสวมใส่ วิธีการรักษาคือควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อวางแผนรักษาติ่งเนื้อด้วยวิธีต่าง ๆ เช่น ตัดติ่งเนื้อออกด้วยกรรไกรแพทย์ ผ่าตัดด้วยความเย็นซึ่งเป็นการใช้ไนโตรเจนเหลวตัดเนื้อเยื่อออก หรือใช้เครื่องมือไฟฟ้าจี้ตัดติ่งเนื้อออกไป เป็นต้น
บางครั้งการไม่ดูลักษาความสะอาด อาจก่อให้เกิดปัญหา ผื่นคันที่บริเวณรักแร้ ขึ้นมาได้ โดยลักษณะคือเป็นผื่นที่มีความขรุขระ และมีสีแดง มีอาการคันและระคายเคืองตลอดเวลา ส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน โดยผื่นนี้หากไม่ดูแลรักษาความสะอาดอย่างถูกวิธี อาจใช้เวลานานกว่าจะหาย บางคนเป็นเดือน ในขณะที่บางคนอาจใช้เวลานานเป็นปีเลยทีเดียว
ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับสาเหตุที่ทำให้เกิดผื่นด้วย เช่น การติดเชื้อรา การสัมผัสสารก่อภูมิแพ้ หรือต่อมไขมันใต้ผิวหนังผลิตไขมันซีบัมออกมามากเกินไป เป็นต้น
การรักษาผื่นบริเวณรักแร้ สามารถทำได้ด้วยวิธีการ ดังต่อไปนี้
– ไม่ควรแกะ หรือเกาที่ผิวหนังตรงบริเวณที่เกิดผื่น เพื่อป้องกันการติดเชื้อ และป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค
– รับประทานยาแก้แพ้ ตามที่แพทย์แนะนำ
– ทาครีมชนิด ไฮโดรคอร์ติโซนหรือโลชั่นคาลาไมน์ เพื่อลดอาการคันและระคายเคือง รวมถึงช่วยลดอาการอักเสบของผิวหนัง
– หลีกเลี่ยงการสัมผัสสารก่อภูมิแพ้ และไม่อยู่ในบริเวณที่มีสารเคมีที่ตนเองแพ้
– ทำความสะอาดรักแร้อย่างสม่ำเสมอ และหลังจากอาบน้ำเสร็จ ควรใช้ผ้าขนหนูเช็ดรักแร้ให้แห้ง ก่อนสวมใส่เสื่อผ้า
– ควรเลือกสวมใส่เสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดีอย่างเช่น ผ้าฝ้าย หรือเสื้อผ้าที่ผลิตจากใยธรรมชาติ รวมถึงการแต่งกายด้วยเสื้อหลวม ๆ ไม่ให้แขนเสื้อ หรือรัดรักแร้มากเกินไป
– หลีกเลี่ยงอากาศที่ร้อนจัด ควรอยู่ในพื้นที่ที่มีอากาศเย็น หรือระบายความร้อนด้วยการเปิดพัดลมและเครื่องปรับอากาศ หากต้องอาศัยภายในที่พักอาศัยมีอากาศร้อนโดยไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้
การดูแลรักษารักแร้ให้มีสุขภาพที่ดี และขาวสะอาด ไม่ใช่เรื่องยากเลย โดยสิ่งที่เราทุกคนต้องทำไม่ว่าจะทั้งหญิงและชาย คือ ควรที่จะต้องดูแลรักษา ทำความสะอาดอย่างถูกต้อง ตลอดจนการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบางอย่างที่ไม่เหมาะสม เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดความอับชื้น และลดการติดเชื้อของแบคทีเรีย ทั้งนี้ เราควรทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ ควรรักษาความสะอาดทุกวัน ไม่ควรปล่อยปละละเลยเพราะไม่เพียงแต่จะทำให้คุณเกิดความไม่มั่นใจในการใช้ชีวิตประจำวันแล้ว บางครั้ง ปัญหาเรื่องรักแร้ ยังอาจก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพต่างๆ ตามมาได้อีกด้วย
