“ออฟฟิศซินโดรม” โรคใกล้ตัว เสี่ยงเครียดสะสม เหตุสังคมในที่ทำงานเป็นพิษ

รู้ทันโรค

ทำงานกันมาทั้งปีโดยเฉพาะใครที่เป็นมนุษย์ออฟฟิศ ลองสำรวจตัวเองกันสักนิด หากคุณเป็นคนที่นั่งทำงานในออฟฟิศทั้งวัน การนั่งทำงานเฉย ๆ เป็นเวลานาน หรือต้องยกของหนักซ้ำ ๆ เดิม ๆ โดยที่ไร้ซึ่งการออกกำลังกาย หรือขยับร่างกายเปลี่ยนอิริยาบถ จนเริ่มมีอาการปวดตามหลัง ไหล่ คอ ปวดหัว ปวดตา อย่าได้มองข้ามอาการเหล่านี้ เพราะล้วนเป็นจุดกำเนิดของโรค “ออฟฟิศซินโดรม” หากไม่ได้รับการบำบัดรักษาป้องกันตั้งแต่เนิ่น ๆ อาจเป็นอันตรายร้ายแรงต่อสุขภาพในภายหลังได้

หลายท่านอาจจะยังไม่ทราบว่า สาเหตุของโรคออฟฟิศซินโดรมนั้น เกิดจากการนั่งทำงานในอิริยาบถเดิมนาน ๆ และไม่มีการยืด ขยับปรับเปลี่ยนท่าทาง เพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อ หรือเกิดจากการนั่งจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์นานเกินไป การเพ่งใช้สายตามาก ๆ บวกกับรังสีจากจอภาพ ทำให้เกิดอาการปวดหัวปวดตาได้ รวมถึงสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ไม่เหมาะสม เช่น ออฟฟิศแออัด อากาศไม่ถ่ายเท โต๊ะเก้าอี้ไม่เหมาะกับสรีระ เป็นต้น

พญ.สุคนธมาศ เสรีสิทธิธรรม แพทย์ด้านเวชศาสตร์ฟื้นฟู รพ.พระรามเก้า บอกว่า นอกจากนี้การทำงานที่หนักเกินไป จนไม่มีเวลาพักผ่อน บวกกับสังคมในที่ทำงานเป็นพิษ ก่อให้เกิดความเครียดสะสม สิ่งเหล่านี้จะส่งผลกระทบต่อการทำงานและการใช้ชีวิตอย่างยิ่ง และหากปล่อยไว้โดยไม่รักษา หรือไม่เปลี่ยนแปลงพฤติกรรม ก็อาจก่อให้เกิดอันตรายตามมา

สำหรับอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้ คือ เสี่ยงต่อการเกิดหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท กระดูกสันหลังคด และแขนขาอ่อนแรง ถ้ารุนแรงมากอาจทำให้กล้ามเนื้อหด ยึด ตึง เสี่ยงต่อโรคซึมเศร้า อันมาจากความเครียด ความกดดัน และบรรยากาศไม่ดีในที่ทำงาน อีกทั้งโรคเรื้อรังต่าง ๆ เช่น โรคอ้วน โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง จากการทานอาหารจุกจิกในเวลาทำงาน และไม่มีเวลาออกกำลังกาย ก็ยังเป็นตัวเสริมให้อาการของออฟฟิศซินโดรมแย่ลงด้วย

อย่างไรก็ดี การรักษาโรคออฟฟิศซินโดรมสามารถเริ่มต้นได้จากตัวเอง เช่น หากเริ่มรู้สึกเมื่อยล้า ควรพักการทำงานเพื่อผ่อนคลายร่างกายและสมอง เช่น ลุกขึ้นยืดเส้นยืดสาย เดินไปสูดอากาศด้านนอกบ้าง ไม่ควรนั่งทำงานติดกันนานเกินไป และหมั่นออกกำลังกาย เพื่อยืดและคลายกล้ามเนื้อ เช่น โยคะ ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน นอกจากจะช่วยลดอาการเกร็งของกล้ามเนื้อ ป้องกันเอ็นและข้อยึดแล้ว ยังช่วยผ่อนคลายความเครียด และเสริมภูมิต้านทานให้ร่างกายได้อีกด้วย

ส่วนใครที่มีไอเดีย สามารถปรับเปลี่ยนสภาพแวดล้อมในการทำงาน เช่น เปลี่ยนโต๊ะและเก้าอี้ให้เหมาะกับสรีระ ทำความสะอาดออฟฟิศให้โล่งและอากาศถ่ายเทมากขึ้น ก็สามารถช่วยให้บรรยากาศในการทำงานผ่อนคลายขึ้น และหากเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมแล้วอาการปวดกล้ามเนื้อยังไม่ดีขึ้น ปวดเรื้อรัง ปวดจนนอนไม่หลับ ทำงานไม่ได้ มีแขนขาอ่อนแรง ควรรีบปรึกษาแพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู เพื่อรับการตรวจประเมินรักษาด้วยยา และการกายภาพบำบัดร่วม 3-7 ครั้ง แล้วแต่สาเหตุและความรุนแรงของโรค

ลองสำรวจตัวเองกันสักนิด แต่ถ้ายังไม่แน่ใจว่ากำลังเผชิญกับโรคออฟฟิศซินโดรม หรือเป็นอาการปวดทั่ว ๆ ไป เนื่องจากมีการปวดคล้ายกัน แต่สาเหตุต่างกัน ก็ควรรีบไปพบแพทย์ เพราะ ทั้งสุขภาพกายและจิตใจจะได้กลับมาทำงานได้อย่างสดใสและมีความสุข ไร้โรคภัยเข้ามารบกวนตลอดทั้งปี.
………………………………..
คอลัมน์ : Healthy Clean
โดย “ทวีลาภ บวกทอง” https://www.dailynews.co.th/article/747388