เวลาน้อยก็ลดน้ำหนักได้ ตามแบบฉบับของสาวออฟฟิศ

ผู้หญิงทุกคนล้วนแล้วแต่ต้องการมีรูปร่างที่ผอมเพรียว หุ่นดี ได้สัดส่วน เพราะสิ่งเหล่านี้บ่งบอกถึงบุคลิกภาพและช่วยให้เกิดความมั่นใจในตัวเองมากยิ่งขึ้น จึงทำให้สาวๆ หลายคนเลือกที่จะใช้เวลาว่างในการออกกำลังกาย หรือแม้แต่การควบคุมอาหารเองก็ตาม แต่สำหรับสาวๆ ชาวออฟฟิศ ที่ต้องทำงานประจำ หรือเป็นลูกจ้างในบริษัทเอกชนต่างๆ อาจจะต้องประสบปัญหาไม่ค่อยมีเวลา เพราะโฟกัสให้ความสำคัญกับงาน และเงินมากกว่า บางคนต้องทำงานหนักจนไม่มีเวลาดูแลตัวเองหรือแม้แต่ไม่มีเวลาออกกำลังกายและควบคุมอาหาร ทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น และสิ่งที่ตามมาคือ สุขภาพที่ย่ำแย่ ดังนั้น วันนี้เราจึงจะมาแนะนำวิธีการลดน้ำหนักตามแบบฉบับของสาวออฟฟิศ แม้จะมีเวลาน้อย แต่ก็ไม่ใช่ปัญหา ส่วนจะมีวิธีการใดบ้างตามไปชมกันเลย

1.แค่ขยับก็เท่ากับออกกำลังกาย

แม้ว่าสาวๆ ชาวออฟฟิศจะไม่ค่อยมีเวลาและต้องทำงานหนัก แต่คุณเคยได้ยินคำนี้ใช่ไหม “แค่ขยับเท่ากับออกกำลังกาย” นั่นหมายความว่า เพียงแค่คุณขยับร่างกายก็เหมือนกับการได้ออกกำลังกาย หรือการบริหารกล้ามเนื้อไปในตัว ยกตัวอย่างเช่นการเดินขึ้นลงบันไดแทนการใช้ลิฟท์ สาวๆ หลายคนได้แต่พร่ำบอกว่าตัวเองไม่มีเวลาออกกำลังกายเลยไม่มีเวลาดูแลตัวเองน้ำหนักก็เลยขึ้น ซึ่งความจริงแล้วไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนก็ตาม คุณสามารถออกกำลังกายได้ อย่างเช่น แทนที่คุณจะใช้ลิฟท์ขึ้นลง ลองหันมาเดินขึ้นลงบันไดแทน เพื่อให้ร่างกายได้ขยับและได้เป็นการบริหารกล้ามเนื้อจะช่วยในการเผาผลาญแคลอรี่และไขมันได้เป็นอย่างดี หรือแม้แต่ตอนพักเบรคคุณสามารถที่จะยืดเส้นยืดสายหรือแกว่งแขน บิดตัวไปมา เพื่อให้กล้ามเนื้อได้ยืดหยุ่นและทำงานอย่างเต็มที่ ก็จะสามารถเผาผลาญพลังงานได้ นอกจากจะมีสุขภาพที่ดีแล้ว ยังทำให้มีน้ำหนักตัวลดลงด้วย

2.หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล

แน่นอนว่าสาวออฟฟิศหลายคนมักจะมีรสนิยมในการดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของน้ำตาลในปริมาณที่มาก ไม่ว่าจะเป็นน้ำอัดลม กาแฟ หรือชาไข่มุกต่างๆ ซึ่งการดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของน้ำตาลมากๆ นั้น จะทำให้ร่างกายเกิดการสะสมไขมันที่ไม่มีประโยชน์ และไขมันนั้นก็จะทำให้สาวๆ มีน้ำหนักตัวที่เพิ่มสูงขึ้นนั่นเอง ดังนั้น ลองงดเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลหรือเปลี่ยนมาดื่มน้ำสะอาดแทนก็จะทำให้ร่างกายได้รับประโยชน์และสร้างความสมดุลให้แก่ร่างกาย ช่วยให้ร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม ที่สำคัญยังช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าได้อีกด้วย

3.ควบคุมอาหาร

การควบคุมอาหารนั้นมีส่วนช่วยในการลดน้ำหนักได้เป็นอย่างมากเลยทีเดียว แม้สาวชาวออฟฟิศจะไม่ค่อยมีเวลาได้ออกกำลังกายก็ตาม แต่การควบคุมอาหารจะช่วยให้น้ำหนักของคุณอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม และทำให้คุณมีรูปร่างที่ดี โดยให้งดเว้นอาหารที่มีไขมันสูง แล้วหันมารับประทานผักผลไม้เพิ่มมากขึ้นเพราะอุดมไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ และไฟเบอร์ซึ่งมีส่วนสำคัญที่ช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดีขึ้น อย่างเช่นตอนพักเบรคแทนที่คุณจะเลือกทานอาหารที่มีเนื้อหรือไขมันสูง ลองหันมารับประทานสลัดผักหรือสลัดโรลก็จะช่วยควบคุมแคลอรี่ได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว

4.นอนพักผ่อนให้เพียงพอ

หลายคนอาจจะสงสัยว่าการนอนพักผ่อนให้เพียงพอ มีส่วนช่วยในการลดน้ำหนักได้อย่างไร ซึ่งในแต่ละวันร่างกายของเราควรได้รับการพักผ่อน 7-8 ชั่วโมงต่อวัน ซึ่งหากคุณนอนน้อยและทำงานจนหักโหมมากเกินไป ก็จะทำให้คุณเกิดการเมื่อยล้าและอ่อนเพลียในการทำงาน นอกจากนั้นการนอนดึกหรือการพักผ่อนไม่เพียงพอยังไปกระตุ้นฮอร์โมนทำให้เกิดรู้สึกหิวตลอดทั้งวันจึงไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมสาวออฟฟิศที่นอนดึก มักจะมีพฤติกรรมการรับประทานอาหารแบบจุกจิก ดังนั้น สาวออฟฟิศทั้งหลาย หากคุณไม่มีเวลาหรือต้องทำงานหนักก็อย่าลืมที่จะแบ่งเวลาสำหรับการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เพราะนอกจากจะช่วยให้คุณมีรูปร่างที่ดีแล้วยังช่วยให้สุขภาพของคุณแข็งแรงอีกด้วย

5.ตั้งเป้าหมายในการลดน้ำหนัก

ไม่ว่าคุณจะทำอะไรก็ตาม จำเป็นที่จะต้องมีเป้าหมายในชีวิต เช่นเดียวกัน หากสาวออฟฟิศอยากมีรูปร่างที่ผอมเพรียวได้สัดส่วน ก็จงอย่าลืมที่จะตั้งเป้าหมายเพื่อเป็นแรงผลักดันให้เราเอาชนะและเดินไปให้ถึงเป้าหมายนั้นให้ได้ โดยคุณอาจจะตั้งเป้าหมายว่าภายใน 5 เดือน คุณจะต้องมีหุ่นที่สวยให้ได้ หรือมีน้ำหนักตัวที่ลดลง มากน้อยเท่าไหร่ก็ว่ากันไป หลังจากที่ตั้งเป้าหมายเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อไปก็คือการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตัวเองไม่ว่าจะเป็นการหาเวลาว่างไปออกกำลังกายหรือการควบคุมการรับประทานอาหาร เพื่อควบคุมน้ำหนักและให้บรรลุเป้าหมายของคุณให้ได้ ตามที่ตั้งไว้

ทั้งหมดนี้ก็คือ วิธีการลดน้ำหนักตามแบบฉบับของสาวออฟฟิศ ซึ่งแม้ว่าคุณจะมีเวลาน้อยหรืออาจจะต้องทำงานหนักมากแค่ไหน แต่อย่าลืมที่จะดูแลรักษาสุขภาพร่างกายของตัวเอง ยิ่งคุณมีน้ำหนักตัวที่เพิ่มสูงขึ้น ไม่เพียงแต่จะบั่นทอนจิตใจและสร้างความมั่นใจให้กับตัวเอง การมีน้ำหนักตัวที่เยอะเกินความเหมาะสม อาจส่งผลเสียในเรื่องของสุขภาพและอาจทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนต่างๆ ตามมาได้ง่ายยิ่งขึ้น ทางที่ดีควรหมั่นดูแลสุขภาพร่างกายเปลี่ยนไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต เพื่อสุขภาพที่ดีและมีรูปร่างที่ผอมเพรียว