7 เคล็ดลับ สำหรับคนอยากลดน้ำหนัก ที่ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป

การควบคุมน้ำหนักตัว

อยากลดน้ำหนักอย่างทันใจและถูกวิธีได้ง่ายๆ เพียงแค่ลดพฤติกรรมที่ทำให้น้ำหนักเพิ่มแค่นั้นเอง

ตามมาดูกันเลยกับวิธีลดน้ำหนักที่ปลอดภัยและเห็นผล

อันดับ 1. เปลี่ยนพฤติกรรมการกิน

สำหรับอาหารเช้า

ให้เปลี่ยนมากินธัญพืชคู่กับนมสด หรือ ผลไม้คู่กับโยเกิร์ต แทนการกินอาหารไขมันสูง เพราะจะช่วยให้ระบบเผาผลาญทำงานง่ายขึ้น

มื้อเช้าควรได้รับพลังงานประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์ ของพลังงานทั้งหมดในหนึ่งวัน (ประมาณ 700 กิโลเเคลอรี)

สำหรับอาหารกลางวัน

ให้เน้นอาหารที่แคลอรี่ต่ำแต่โปรตีนสูง ทานคู่กันกับผักผลไม้ จะเพิ่มไข่ต้มไปด้วยก็ได้เช่นกัน อกไก่เป็นอาหารที่ไขมันน้อย แคลอรี่ต่ำ และย่อยง่าย เหมาะกับคนที่ต้องการลดน้ำหนัก

มื้อกลางวันควรได้รับพลังงานประมาณ 35 เปอร์เซ็นต์ ของพลังงานทั้งหมดในหนึ่งวัน (ประมาณ 600 กิโลเเคลอรี)

สำหรับอาหารเย็น

เนื่องจากอาหารเย็นเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้อ้วนได้ง่าย ดังนั้นควรเลือกอาหารเย็นที่มีเเคลอรี่ต่ำ และกินก่อนเข้านอน 4-6 ชั่วโมง

มื้อเย็นควรมีแคลอรี่น้อยที่สุดในบรรดามื้ออาหารทั้ง 3 มื้อ มื้อเย็นควรได้รับพลังงานประมาณ 25 เปอร์เซ็นต์ ของพลังงานทั้งหมดในหนึ่งวัน (ประมาณ 400- 500 กิโลเเคลอรี)

สำหรับของว่าง

แนะนำให้กินของว่าง 2 มื้อต่อวัน

การกินของว่างจะทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้เต็มที่ แต่ของว่างควรเป็นผลไม้ เช่น พวกเบอร์รี่ ในกรณีที่อยากทานของหวานควรเลือกเป็นเจลาตินแบบ sugar-free หรือจะทานเป็นธัญพืชอบกรอบ เพราะจะช่วยให้อิ่มท้องที่สำคัญคือไม่อ้วน

อันดับ 2. ลดการกินโซเดียมให้น้อยลง

การกินโซเดียมมากเกินไปจะทำให้เราตัวบวมได้ ดังนั้น เราควรบริโภคเกลือ หรือ โซเดียมให้น้อยลง

อันดับ 3. ลดการกินน้ำตาล

เครื่องดื่มที่มีน้ำตาลเป็นส่วนประกอบควรดื่มให้น้อยลง เพราะน้ำตาลคือคาร์โบไฮเดรตชนิดหนึ่ง ซึ่งจะถูกเปลี่ยนไปเป็นไขมันสะสม การลดน้ำตาลจึงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญ ถ้าลดได้น้ำหนักจะลดลงอย่างเห็นผลได้ชัด

อันดับ 4. เพิ่มผักในทุกมื้อ

ระบบขับถ่ายที่ดีจะช่วยลดน้ำหนักได้ผลมากขึ้น ซึ่งการเพิ่มไฟเบอร์ที่มีอยู่ในผักจะช่วยให้ระบบย่อยอาหารดีขึ้น และจะช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานเป็นระบบมากขึ้น

อันดับ 5. ออกกำลังกาย

กระโดดเชือก

ออกกำลังกายง่ายๆ ทำได้ด้วยตนเองอย่างกระโดดเชือกทุกวันวันละ 20 นาที การกระโดดเชือกเป็นการออกกำลังกายที่ช่วยลดน้ำหนักได้ดีที่สุด เพราะการกระโดดเชือก 15 นาทีเทียบเท่ากับการวิ่งออกกำลังกาย 30 นาที ในแต่ละวันแนะนำให้กระโดดครั้งละ 10 นาที 2 ครั้ง

คาร์ดิโอ

การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอจะช่วยเผาผลาญพลังงานได้ดี โดยแนะนำให้วิ่งวันละ 20 นาที การวิ่งจะทำให้ระบบไหลเวียนเลือดมีการสูบฉีด เกิดการเผาผลาญเปลี่ยนน้ำตาลไปเป็นไขมัน ช่วยลดการสะสมของไขมัน

อันดับ 6. ดื่มน้ำมะนาวทุกเช้า

น้ำเป็นเรื่องสำคัญที่จะทำให้การลดน้ำหนักมีประสิทธิภาพ การดื่มน้ำมะนาวทุกเช้าจะช่วยดีท็อกซ์และเผาผลาญไขมัน

อันดับ 7. ฝึกโยคะเป็นประจำ

การฝึกโยคะช่วยกระชับกล้ามเนื้อ และ โยคะบางท่ายังสามารถช่วยกระตุ้นระบบขับถ่าย ทำให้เราขับถ่ายได้เป็นปกติขึ้น