AHA คืออะไร และมีคุณประโยชน์ต่อผิวพรรณอย่างไร

ความสวย ความงาม

ผู้หญิงหลายคน คงคุ้นเคยกับกรด AHA เป็นอย่างดี เช่นเดียวกัน เชื่อว่าสาว ๆ หลายคนก็อาจจะยังไม่รู้ความหมายที่แท้จริงของกรดชนิดนี้ แต่ก็มักจะพบเห็นอยู่บ่อยครั้ง บนฉลากของผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหรือเครื่องสำอางต่าง ๆ และก็อาจจะมีความสงสัยว่ากรด AHA คืออะไรกันแน่ มีความสำคัญอย่างไร มีอัตรายหรือไม่ ทำไมต้องถูกใช้เป็นส่วนผสมในเครื่องสำอาง หรือผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ซึ่งวันนี้เราจะพาทุกคนมาหาคำตอบไปพร้อม ๆ กัน และบอกเล่าเรื่องราวของกรด AHA ว่าคืออะไร มีประโยชน์ต่อผิวพรรณอย่างไร ถ้าอยากรู้แล้ว ตามไปดูพร้อม ๆ กันเลย

ความหมายของ AHA

AHA เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า กรดอัลฟาไฮดรอกซี (Alpha Hydroxy Acids) โดยเป็นสารสกัดที่ได้จากธรรมชาติ และมีฤทธิ์เป็นกรด ยกตัวอย่างเช่น

  • กรดไกลโคลิก (Glycolic Acid) ได้จากพืชอ้อย
  • กรดซีตริก (Citric Acid) ได้จากผลไม้มีรสเปรี้ยว
  • กรดแลคติก (Lactic Acid) ได้จากนมเปรี้ยว และ
  • กรดมาลิก (Malic Acid) จากแอปเปิ้ล เป็นต้น

การใช้ประโยชน์จากกรด AHA นั้น ถูกใช้ในการบำรุงผิวและคืนความอ่อนเยาว์ให้กับผิวหน้า ซึ่งมีมาตั้งแต่ในอดีต โดยในปัจจุบันก็ยังคงถูกใช้กันอย่างแพร่หลายเพราะได้รับการวิจัยมาแล้วว่า AHA นั้นมีประสิทธิภาพในการดูแลผิว อย่างไรก็ตาม ประสิทธิภาพในการบำรุงหรือดูแลผิวนั้นจะมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับความเข้มข้นของกรด AHA ที่มีผสมอยู่ในผลิตภัณฑ์แต่ละชนิดด้วย ในความจริงแล้ว กรดแลคติก และกรดไกลโคลิก ก็ยังคงถูกใช้เป็นส่วนผสมของเครื่องสำอางมากกว่า

กรด AHA มีคุณสมบัติที่โดดเด่นในเรื่องของการช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าหรือเซลล์ผิวที่แห้งเสียและตายให้หลุดออกไปบนชั้นผิวหนัง เพื่อช่วยให้ผิวพรรณดูมีสุขภาพดีมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การใช้ AHA ที่มีความเข้มข้นในในระดับสูงและใช้อย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน จะยิ่งส่งผลดีต่อชั้นเซลล์ผิวที่อยู่ลึกลงไป ช่วยกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจน และทำให้ผิวเกิดความยืดหยุ่นหรือมีกระตุ้นอิลาสตินใต้ผิวหนัง จึงช่วยลดปัญหาริ้วรอยต่าง ๆ ให้แลดูจางลง และช่วยเพิ่มความนุ่ม ชุ่มชื้นให้แก่ผิว

ประโยชน์ของ AHA ที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน มีดังต่อไปนี้

-ช่วยปรับสมดุลค่า pH และเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว

มีการวิจัยมาแล้วว่าผิวที่ดูมีสุขภาพดี ควรมีค่า pH หรือค่าที่เป็นกรดและด่างเพียงเล็กน้อย โดยอยู่ระหว่าง 4.5-5.5 เท่านั้น จึงจะทำให้ผิวเกิดความสมดุล และไม่ทำให้เกิดปัญหาผิวแห้งหรือเกิดสิวได้ง่าย ซึ่งกรดมาลิคที่อยู่ในแอปเปิ้ล จึงถูกนำมาสกัดและใช้เป็นส่วนผสมในเครื่องสำอาง หรือผลติภัณฑ์บำรุงผิว เพื่อช่วยรักษาค่าสมดุลของ ph ให้แก่ผิว สาว ๆ คนไหนที่มีปัญหาผิวแห้งง่าย หรือเป็นสิว ลองมองหาผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ AHA ประกอบด้วยกรดมาลิค ก็จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวและลดปัญหาการเกิดสิวได้นั่นเอง

-ช่วยชะลอความชรา และลดเลือนริ้วรอยบนใบหน้า

อย่างที่เราได้กล่าวไปแล้วในข้างต้นว่ากรด AHA นั้น มีคุณสมบัติช่วยลดเลือนริ้วรอยบนใบหน้า และช่วยซ่อมแซมเซลล์ผิวด้วยการกระตุ้นให้ผิวเกิดการสร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ และผลัดเซลล์ผิวที่แห้งเสียให้หลุดออกไป จึงทำให้ชั้นผิวภายในเนื้อเยื่อเกิดความยืดหยุ่นและแข็งแรง สำหรับคนที่มีอายุมากขึ้น กลไกการผลิตคอลลาเจนของร่างกายก็จะน้อยลง ทำให้เกิดริ้วรอยและความหย่อนคล้อยต่าง ๆ ลองมองหาผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมของ AHA ก็จะช่วยฟื้นฟูสภาพผิวและช่วยลดเลือนริ้วรอยให้แลดูจางลง นอกจากนั้นยังช่วยปรับให้สีผิวดูสม่ำเสมอกันอีกด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ วิตามินบี วิตามินซี และวิตามินบี 3 ร่วมด้วย ก็จะยิ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพที่ดีในการบำรุงผิว ช่วยลดเลือนริ้วรอยแห่งวัย และทำให้ผิวดูเรียบเนียนมากยิ่งขึ้น

-ลดรอยสิวให้ดูจางลง และป้องกันการเกิดสิว

ไม่เพียงแต่สาว ๆ ที่มีปัญหาผิวหน้าแห้งเท่านั้น ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดสิว แต่สาวที่มีใบหน้ามันมากเกินไปก็มีความเสี่ยงในการเกิดสิวอุดตันได้เช่นเดียวกัน เพราะในแต่ละวันสาว ๆ อย่างเราอาจต้องเจอกับมลภาวะทั้งฝุ่น ควัน และแสงแดด สิ่งสกปรกต่าง ๆ เหล่านี้ หากเข้าไปอุดตันในรูขุมขน ก็จะทำให้เกิดการสะสมของเชื้อโรค แบคทีเรีย และเป็นสาเหตุทำให้เกิดสิวอักเสบขึ้นได้ในที่สุด ดังนั้น การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ AHA นอกจากจะช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายให้หลุดออกไปได้แล้ว ยังช่วยกำจัดสิ่งสกปรกที่อุดตันอยู่ภายในรูขุมขนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยกระชับรูขุมขน และลดการอักเสบของสิว ทำให้ผิวในบริเวณที่เกิดสิวดูเรียบเนียนมากยิ่งขึ้น ช่วยลดเลือนรอยแผลเป็นจากการเกิดสิว ที่สำคัญยังช่วยป้องกันการเกิดสิวได้ดีอีกด้วย

ทั้งหมดนี้ ก็คือ สาระน่ารู้ของกรด AHA และประโยชน์ที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน อย่างไรก็ตาม แม้กด AHA จะมีประโยชน์ต่อผิวพรรณ แต่ก็มีข้อควรระวังอยู่บ้าง สำหรับสาว ๆ คนไหนที่มีสภาพผิวแพ้ง่ายเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ควรหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ AHA ในปริมาณที่เข้มข้นเกิน 10 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไปเพราะอาจทำให้เกิดผลเสียต่อผิวหนัง หรือหากต้องการใช้ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังโดยตรง สำหรับผู้หญิงที่อยู่ในภาวะตั้งครรภ์ และอยู่ในช่วงให้นมบุตรก็ไม่ควรใช้เช่นเดียวกันเพราะอาจทำให้เกิดผลข้างเคียง เช่น เกิดผื่นแดง คัน หรือเกิดการระคายเคืองขึ้นได้ เป็นต้น