ผิวลอก ปัญหาสำหรับผู้หญิง แก้ไขอย่างไร

ความสวย ความงาม ผิวหนัง

รู้สึกเบื่อไหมที่สาว ๆ อย่างเราต้องเจอกับปัญหาผิวลอกเป็นประจำ หลายคนที่ต้องพบเจอกับปัญหานี้คงรู้สึกรำคาญใจไม่ใช่น้อย และไม่ว่าจะแต่งหน้า ทาครีมหรือบำรุงมาดีมากแค่ไหน แต่ก็ยังพบว่าปัญหาผิวลอกยังคงไม่หายไป ปัญหานี้อาจส่งผลต่อความมั่นใจของสาว ๆ จนบางครั้งอาจบ่งบอกถึงบุคลิกภาพทำให้สาว ๆ เกิดความประหม่าและเกิดความกังวลอยู่ตลอดเวลา ซึ่ง ผิวลอก นอกจากจะส่งผลในเรื่องของความสวยความงามแล้วหากปล่อยไว้นานยังอาจส่งผลทำให้กลายเป็นปัญหาเรื้อรังได้ โดยวันนี้เราจะมาบอกเล่าเรื่องราวและสาระสำคัญเกี่ยวกับภาวะผิวลอก ว่าเกิดจากสาเหตุใด และมีวิธีการรักษาอย่างไรยิ่งรักษาได้ตรงจุดและรวดเร็ว ก็ยิ่งมีโอกาสหายได้เร็วขึ้น

ผิวลอก คืออะไร ?

อาการผิวลอก หมายถึง การที่ผิวหนังชั้นนอกสุด หรือที่เรียกว่าหนังกำพร้านั้น มีภาวะหลุดลอกออกมา ส่งผลให้ผิวหนังในบริเวณนั้น ๆ มีลักษณะที่แห้ง แตก หรือลอกเป็นขุย บางครั้งอาจมีอาการคันหรือมีรอยแดงร่วมด้วย โดยอาการผิวลอกนี้สามารถเกิดขึ้นได้ทั่วทั้งร่างกาย และส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะกับผู้หญิง ทำให้สาว ๆ เกิดความไม่มั่นใจเพราะเป็นปัญหาเรื่องของความสวยความงาม ซึ่งไม่ว่าจะแต่งหน้าหรือโป๊ะด้วยเครื่องสำอางหนามากแค่ไหน แต่ก็ยังเผยให้เห็นผิวที่ลอก และไม่ยึดเกาะติดกับเครื่องสำอาง โดยปัญหานี้ทำให้สาว ๆ หลายคนรู้สึกไม่มั่นใจในการใช้ชีวิตประจำวันเป็นอย่างมากเลยทีเดียว

ผิวลอก มีสาเหตุมาจากอะไร ?

อาการผิวลอก ความจริงแล้วสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ โดยทั่วไปมักจะเกิดจากภาวะผิวแห้งหรือผิวไหม้แดด รวมไปถึงการเกิดแผล บนผิวหนัง หรือน้ำกัดเท้า ตลอดจนเล็บขบ ก็อาจทำให้เกิดผิวลอกได้เช่นเดียวกัน นอกจากนี้ผิวลอกยังอาจเกิดขึ้นได้จากปัญหาผิวหนัง โดยมีดังต่อไปนี้

-เกิดจากการอักเสบของผิวหนัง เช่น โรคผื่นแพ้สัมผัส ผื่นผ้าอ้อม และโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง เป็นต้น

-เกิดจากอาการแพ้ เช่น แพ้สารเคมี หรือแพ้ยาบางชนิด

-เกิดจากการติดเชื้อบนผิวหนัง เช่น โรคกลาก เกลื้อน และเชื้อรา เป็นต้น

-เกิดจากภูมิคุ้มกันทำงานผิดปกติ เช่น โรคไลเคนพลานัส และโรคสะเก็ดเงิน

อย่างไรก็ตาม ภาวะผิวหนังลอกนั้น อาจเกิดขึ้นได้จากสาเหตุอื่น ๆ อีกมากมายหรือแม้กระทั่งเป็นโรคผิวหนังที่ยังไม่มีสาเหตุที่แน่ชัด โดยหากพบว่าอาการผิวลอกเป็นติดต่อกันนานหรือกลายเป็นเรื้อรัง อาจมีความเสี่ยงทำให้เกิดโรคมะเร็งผิวหนังได้ ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วจะมีสาเหตุหลักมาจากการที่ผิวหนังโดนแสงแดดมากเกินไป รังสียูวีในแสงแดดจะทำร้ายผิวหนังให้แห้งเสีย ทั้งผิวหนังส่วนบน และเซลล์ผิวหนังที่อยู่ล้ำลึก นอกจากนั้น ผิวลอก บางคนอาจเกิดจากลักษณะการถ่ายทอดทางพันธุกรรม ที่พ่อแม่คนใดคนหนึ่งอาจมีภาวะผิวแห้ง จึงถ่ายทอดมายังลูก

ผิวลอก มีวิธีการรักษาและแก้ไขอย่างไร

-เลือกผลิตภัณฑ์ที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว

สำหรับคนที่มีปัญหาผิวลอก ลองมองหาผลิตภัณฑ์ที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว อย่างที่บอกว่าปัญหาผิวลอก ส่วนใหญ่เรามักจะเกิดจากการที่ผิวแห้งเสีย หรือถูกแสงแดดทำร้าย ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวสำหรับผิวแห้งจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวได้เป็นอย่างดี โดยควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีสารให้ความชุ่มชื้นเป็นส่วนประกอบ เช่น  ยูเรีย และแลคเตรท ที่สามารถช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น และช่วยยึดเกาะกับโมเลกุลน้ำที่อยู่ภายในผิว ทำให้ผิวเกิดความชุ่มชื้นมากยิ่งขึ้น และลดปัญหาผิวลอก แห้ง แตก หรือลอกเป็นขุยได้ ที่สำคัญยังสามารถช่วยป้องกันการสูญเสียน้ำจากในผิวได้อีกด้วย

-หลีกเลี่ยงการอาบน้ำอุ่น

สำหรับสาว ๆ ที่มีปัญหาผิวแห้งเสียหรือผิวลอกง่าย ควรหลีกเลี่ยงการอาบน้ำอุ่น และควรอาบน้ำในอุณหภูมิที่เป็นปกติ เชื่อว่าหลายคนมีความเชื่อที่ผิดว่าการอาบน้ำอุ่นนั้นจะช่วยบำรุงผิวให้ดี ซึ่งความเป็นจริงแล้ว การอาบน้ำอุ่นจะเป็นการชำระล้างความชุ่มชื้นบนผิว และทำให้ผิวแห้งเสีย หรือลอกง่ายยิ่งขึ้น แม้ว่าจะมีการวิจัยมาแล้วก็ตามว่า การอาบน้ำอุ่นนั้น สามารถช่วยเพิ่มความสดชื่นให้แก่ร่างกายได้ เหมือนที่ชาวญี่ปุ่นนิยมการนอนแช่ออนเซ็น แต่ความเป็นจริงแล้ว น้ำอุ่นไม่เหมาะกับคนที่มีปัญหาผิวแห้งเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เพราะอย่างที่บอกว่าน้ำอุ่นนั้นไม่เป็นมิตรต่อผิว ซึ่งคุณสามารถอาบน้ำอุ่นได้ แต่ก็ไม่ควรนอนแช่ในน้ำอุ่นนานเกิน 30 นาทีขึ้นไป เพราะการทำเช่นนี้ แน่นอนว่าจะส่งผลเสียต่อผิวของคุณและทำให้ผิวลอกได้ง่ายมากยิ่งขึ้นนั่นเอง

-ทาครีมกันแดดเป็นประจำ

รังสียูวีที่อยู่ในแสงแดดนั้น อาจทำร้ายผิวให้แห้งเสีย หากสาว ๆ ไม่ป้องกันผิวจากแสงแดดก็อาจจะทำให้เกิดภาวะผิวไหม้แดดและผิวแห้งเสียหรือหลุดลอกได้ง่ายยิ่งขึ้น ที่สำคัญยังมีความเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคมะเร็งผิวหนังได้อีกด้วย ดังนั้น ก่อนออกไปเผชิญกับแสงแดดหรือต้องออกไปทำกิจกรรมกลางแจ้ง นอกจากการสวมใส่เสื้อผ้าที่มิดชิดแล้ว ควรทาครีมกันแดดเป็นประจำก่อนออกแดด อย่างน้อย 30 นาที เพื่อให้ครีมกันแดดนั้นสามารถซึมซับลงสู่ผิวได้อย่างล้ำลึก และที่สำคัญควรทาซ้ำในทุก ๆ 2 ชั่วโมง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปกป้องแสงแดดให้ดีมากยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตาม หากพบว่าผิวหนังเกิดภาวะลอก ซึ่งอาการนี้ยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเวลาผ่านไปนานแล้วปรากฏว่าอาการเหล่านี้ก็ยังไม่ดีขึ้น สาว ๆ ไม่ควรชะล่าใจ ต้องรีบไปปรึกษาแพทย์ผิวหนังทันที เพื่อหาวิธีการรักษาต่อไปเพราะไม่แน่ว่า หากปล่อยไว้นาน จนกลายเป็นเรื้อรัง อาจทำให้มีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งผิวหนังได้ในที่สุด